วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563

ไร่เสน่หาจองจำหัวใจ : บทที่ 6 ไร่เรืองเดช


นิยายเปิดเช่าและขาย

เรื่องไร่เสน่หาจองจำหัวใจ

 

 
บ้านไร่เรืองเดช อาคารชั้นเดียวหลังใหญ่ประกอบด้วยไม้สักเนื้อดีมีความกว้าง ซึ่งตัวบ้านตั้งเด่นตระหง่านกลางสวนหย่อมที่มีต้นไม้ดัดปลูกประดับเป็นรูปทรงต่าง ๆ ยืนต้นเรียงรายขนาบสองข้างทางเดินปูน ภายในตัวบ้านล้วนตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง
เมธีแต่งกายด้วยเสื้อยืดคอเชิ้ตสีขาวกับกางเกงเนื้อผ้าดีสีดำ เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวกายขาวและใบหน้าหล่อคมคาย ริมฝีปากหยักโค้งจะปรากฏรอยยิ้มหวานเพิ่มเสน่ห์แห่งบุรุษเพศ ฉะนั้นไม่ว่าเขาจับจ้องหญิงสาวคนใด หญิงสาวผู้นั้นไม่เคยรอดพ้นเสน่ห์แห่งรอยยิ้มและการเอาใจของเขาสักราย
ชายหนุ่มเปลี่ยนจากท่านั่งตัวตรงมาเอนหลังพิงพนัก ปล่อยความคิดล่องลอยไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา
“นายครับเจ้านักสืบ นั่งรออยู่ในห้องรับแขกแล้วครับ”
เสียงรายงานจากลูกสมุน ดังผ่านบานประตูเข้ามา
“เออ บอกมัน ให้รอไปก่อน” น้ำเสียงติดรำคาญตะโกนสั่งการ เมธีเหม็นขี้หน้าเจ้านักสืบคนนี้จะแย่ ถ้ามันไม่เผอิญเป็นเพื่อนกับเจ้านักสืบอีกคน เขาคงไม่คิดซื้อตัวมันมาใช้งาน แต่ก็อีกนั่นแหลเพราะฝีมือสืบหาข้อมูลของมันเยี่ยมยอด เขาจึงต้องทนเหม็นเบื่อหน้ามันอย่างจำใจ
ไม่นานหนุ่มเจ้าของบ้านทิ้งตัวนั่งบนโซฟายาว ซึ่งโซฟาเดี่ยวตรงข้ามมีนักสืบชายวัยสี่สิบต้น ๆ นั่งรออยู่ หนุ่มเจ้าของบ้านนึกหมั่นไส้ท่านั่งรื่นรมย์ใจกับการจิบน้ำเย็นของอีกฝ่าย ถ้าไม่เพราะเขาอยากรู้ประวัติสาวสวยที่นั่งรถมากับปฐพี เขาคงไม่เรียกมันมาใช้งาน และไอ้ท่านั่งขวางหูขวางตาอยู่นี้คงจะถูกเขาสั่งให้ลูกน้องหิ้วไปทิ้งไกลหูไกลตาแล้ว
“ได้เรื่องอะไรมา?” เสียงห้วนเอ่ยถาม นำพาให้คนกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับรายได้งาม ๆ สะดุ้งเฮือก ก่อนที่แก้วในมือจะถูกวางลงบนจานรองอย่างเงียบที่สุด และกล่าวตอบ
“ได้ครบทุกเรื่องที่เจ้านายอยากรู้เลยครับ” นักสืบชายทำใจกล้าฝืนยิ้มระรื่น กับชายหนุ่มเจ้าของไร่ที่มีอิทธิพลมากพอตัวในชนบทแห่งนี้
“เพื่อนแกยอมขายความลับลูกค้าเชียวหรือ?” เมธีเลิกคิ้วถาม เพราะปกติประวัติลูกค้าจะเป็นความลับสุดยอดของนักสืบทุกคน ซึ่งถือเป็นความซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตน แต่เจ้านี่สามารถล้วงข้อมูลจากเพื่อนของมันมาได้ช่างน่าแปลก แต่ความสงสัยของเมธีก็ได้รับคำตอบในทันที
“มันไม่เปิดปากหรอกครับ เพราะมันรักษาความลับลูกค้าเท่าชีวิต แต่ผมมีวิธี” นักสืบหนุ่มส่งสายตา
เจ้าเล่ห์บ่งบอกถึงวิธีการที่ไม่ธรรมดาในการนำข้อมูลลูกค้าของเพื่อนร่วมอาชีพมา ซึ่งนายจ้างหนุ่มก็ไม่นึกแปลกใจแต่อย่างใด เพราะเห็นถึงความเจ้าเล่ห์อีกฝ่ายเป็นอย่างดี
“ไหนล่ะ?” เมธีถามเสียงกร้าว เพื่อหยุดยิ้มกวนโทสะตรงหน้าเสีย
ใบหน้ากำลังมียิ้มกว้างหุบลงเร็วพลัน เมื่อนายจ้างมองตาขวาง ตระหนักทันทีว่านายจ้างคนนี้แม้จะจ่ายหนักแต่ก็เล่นด้วยได้ยาก ฉะนั้นความคิดจะถ่วงเวลาเพื่อหวังรางวัลงาม ๆ เพิ่มจากจำนวนที่ตกลงกันไว้ก็เป็นอันยกเลิก สู้ขายข้อมูลเสร็จรีบรับเงินแล้วเผ่นหนีดีกว่า อีกอย่างเขาไม่แน่ใจว่าถ้าข้อมูลไปถึงมืออีกฝ่ายแล้ว เขาจะตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า
“ข้อมูลผู้หญิงคนนั้น อยู่ในนี้แล้วครับเจ้านาย”
เมธีรับซองสีน้ำตาลที่ภายในบรรจุแผ่นกระดาษหลายแผ่น เขาดึงออกมาอ่านทีละแผ่นอย่างคร่าว ๆ ต่อจากนั้นใบหน้าบึ้งตึงกลับปรากฏรอยยิ้มพออกพอใจกับประวัติหญิงสาวที่อยู่ในมือ  รอยยิ้มกระหยิ่มใจกับความคิดบางอย่าง อีกทั้งสีหน้าและแววตาของเขาปรากฏความหมายมาด
ปฐพีแล้วนายจะรู้ว่าเรื่องผู้หญิง ฉันเหนือชั้นกว่านายมากแค่ไหน
อากัปกิริยาเหล่านี้หาได้รอดพ้นสายตาผู้ชำนาญการจับสังเกตอย่างนักสืบ แต่เพราะความไม่รู้กาลเทศะของตนจึงทำให้เผลอพูดโพล่งออกไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ
“ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริง ๆ ครับเจ้านาย สวยไปทั้งตัวเชียว ผมอยากรู้จริง ๆ เจ้าของไร่โน้นได้เธอมายังไง นี่ถ้าผมได้เมียสวยอย่างนี้ผมไม่มีวันปล่อยให้เธอนอนเหงาเลยสักคืน”
“หุบปากแกซะ!” เมธีตวาดเสียงดัง จนคนตรงหน้าอ้าปากค้างหน้าซีดตัวสั่น พลางนึกด่าตัวเองในใจว่าไม่น่าพูดพล่ามหาเรื่องใส่ตัวเลย
“แกรับเงินแล้วรีบไปห่าง ๆ บ้านกูเลย ก่อนที่กูจะให้พวกข้างนอกกระทืบปากมึง” เมธีขู่ซ้ำ พร้อมกับตะโกนสั่งการไปถึงลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านนอก “เฮ้ย! ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาหน่อยซิ!
ลูกน้องชายวัยฉกรรจ์ตัวใหญ่ล่ำเดินเข้ามายืนรอรับคำสั่งด้วยสีหน้าถมึงทึง
“เวท เอ็งไปหยิบเงินบนโต๊ะทำงานของกูมาให้มัน แล้วไล่มันไปไกล ๆ บ้านกูเลย”
“ครับนาย” เวท ลูกน้องคนสนิทก้มศีรษะรับคำสั่ง ก่อนจะเดินอาด ๆ ออกไป แล้วกลับเข้ามาพร้อมซองเงินในมือที่เจ้านายเตรียมไว้แล้ว
นักสืบชายรับเงินด้วยสีหน้าซีด เพราะไม่รู้ว่ารับเงินแล้วนายจ้างจะสั่งให้ลูกน้องหน้าโหดทำอะไรกับตน
“ออกไปได้แล้ว!” เสียงเวทสั่ง มีผลให้นักสืบรีบดีดตัวลุกขึ้นอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะยกมือไหว้เจ้าของบ้านและเร่งฝีเท้าเดินออกไป
เมื่อเมธีเห็นว่าเวทพาเจ้านักสืบจอมกะล่อนพ้นจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มคิดจะเอื้อมหยิบกระดาษพวกนั้นขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่ถูกขัดจังหวะด้วยลูกน้องอีกคน เดินเข้ามารายงานว่าลูกหนี้รายหนึ่งต้องการนำเงินมาชำระหนี้
เมธีรู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นลูกหนี้ที่มาพบเขาคือเมฆ และมาพร้อมเงินจำนวนมากพอจะชำระหนี้คืนให้เขาทั้งต้นและดอก ที่น่าเจ็บใจคือเงินจำนวนดังกล่าวเมฆเบิกล่วงหน้ามาจากปฐพี และเล่าว่าได้สารภาพทุกอย่างกับเจ้านายของตนหมดเปลือก ในช่วงเวลานั้นเมธีรู้สึกถึงอารมณ์เดือดดาล เพราะถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครเอาผิดกับเขาได้ แต่เขาก็จะถูกจับตามองจากตำรวจอย่างเปิดเผยในฐานะผู้เป็นต้นเหตุให้เมฆลงมือวางเพลิงไร่ปานเทวา
เมธีรู้ว่าเงินที่ได้จากการทำงานของพ่อไม่ขาวสะอาดนัก เมื่อเขาได้รับมรดกจากท่าน เขาจึงต้องทำการฟอกเงินโดยลงทุนซื้อไร่องุ่นไร่เล็กไร่น้อยจนได้รวมกันเป็นผืนใหญ่ ใช้พืชเศรษฐกิจชนิดนี้เพื่อหมุนเงินทางธุรกิจ อีกจุดประสงค์หนึ่งคือต้องการเป็นคู่แข่งทางการส่งออกกับไร่ปานเทวา
แต่เพราะไม่มีบรรพบุรุษทำพืชไร่มาก่อนอีกทั้งตัวเขาเองก็ไร้ความสนใจโดยสิ้นเชิง ทว่าเพื่อการแข่งขันกับไร่ฝั่งตรงข้ามทำให้เขาจ้างนักวิจัยที่มีความรู้ด้านองุ่นและไวน์โดยเฉพาะมาดูแลหลายคน กว้านซื้อตัวผู้จัดการจากไร่องุ่นอื่นมาคุมงานเพาะปลูกรวมทั้งงานส่งผลผลิตออกสู่ตลาด
เมธีต้องอาศัยช่วงที่เมฆเป็นหนี้พนันและกดดันให้วางเพลิงเผาองุ่นในไร่ปฐพี เพราะไม่ว่าเขาพยายามสร้างผลผลิตให้ได้ทัดเทียมไร่ปานเทวา ด้วยการจ้างนักวิจัยและผู้จัดการมากประสบการณ์ในการเพาะปลูก แต่ผลผลิตการส่งออกก็ยังต่ำและด้อยคุณภาพมากกว่าไร่คู่อริอยู่ดี
นั่นเป็นเพราะว่า ชื่อเสียงไร่ปานเทวาฝังรากลึกสืบเนื่องกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้ผลผลิตได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ ส่งผลให้มีปริมาณการส่งออกสูงขึ้นทุกปี และที่สำคัญปฐพีมีความสามารถทางการผลิตไวน์ด้วยสูตรไวน์ของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เมธียอมรับความพ่ายแพ้ต่อศัตรูไม่ได้ และจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำลายความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อไร่ปานเทวาลงให้ได้
ตอนนี้เรื่องทำลายไร่ของปฐพีคงต้องรอคอยโอกาสต่อไป แต่ระหว่างนี้เขาคิดถึงใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งรถมากับปฐพี เพียงแค่เห็นแวบเดียว แต่ด้วยความสวยโดดเด่นจึงทำให้เมธีอยากรู้จักเธอ เขาไม่เคยสนว่าผู้หญิงที่เขาต้องการจะเป็นลูกเขาเมียใคร แค่ถูกใจเขาจะต้องเอามาเป็นเครื่องระบายอารมณ์ใคร่ของเขาให้ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่เป็นผู้หญิงของศัตรู ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เมธีดีดตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงอีกครั้ง  เอื้อมมือคว้าประวัติหญิงสาวขึ้นมาอ่านอีกครา สายตาของเขากวาดเก็บทุกรายละเอียดจากนั้นหยิบรูปถ่ายของเธอขึ้นมาเพ่งพิศอยู่นาน จนกระทั่งรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าแสดงถึงความมุ่งหวังบางอย่าง หึ บ้านไร่ของนายและผู้หญิงของนาย ในที่สุดจะต้องอยู่ในกำมือของฉัน ปฐพี!’
 
 ราคาขาย: 200 + 40 = 240 บาท 
(พื้นที่ห่างไกลลงทะเบียน)

 
ราคาเช่า : เช่าเหมา  7 วัน ราคา 10%ของราคาปก ไร่เสน่หาจองจำหัวใจราคาปก 319x10%=31 บาท + ค่าส่ง 40 = 71บาท
(เฉพาะพื้นที่ห่างไกลลงทะเบียน)
ซึ่ง ยอดยืม 31 บาทจะหักจากค่ามัดจำที่ผู้ยืมต้องจ่ายตามราคาปกก่อนคือ 319 บาท ต่อเมื่อส่งหนังสือคืนร้านแล้ว ทางร้านจะโอนคืนส่วนที่หักค่ายืมแล้วค่ะ
หมายเหตุ : ยืมได้ครั้งละไม่เกิน 2 เล่ม ส่งคืนตามวันที่ระบุ ถ้าเลยกำหนดส่งสองวันขอหักยอดที่จะโอนคืนวันละ 2 บาทค่ะ และขอย้ำว่าต้องวางมัดจำตามราคาปกทุกเล่มค่ะ
 
 

 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น