ปฐพีไม่สนกับอาการดิ้นหนีตายของหญิงสาว
และไม่ว่าจะได้ยินเสียงร้องเสียงห้ามอย่างไรก็ไม่คิดหยุดฟัง
เพราะเวลานี้ทุกอณูในกายหนุ่มมัวเมากับเสน่หาที่ก่อตัวจากความหึงหวงจนลืมทุกอย่างไปหมดสิ้น
ลืมแม้กระทั่งว่าท่อนแขนท่อนขาของอีกฝ่ายมันมีรอยเขียวช้ำ
เขาวางแผ่นหลังเนียนนุ่มกระแทกลงบนที่นอน
พร้อมร่างใหญ่ของตนทาบทับลงมา ก่อนปล่อยน้ำเสียงขึ้งเคียด
“ดิ้นทำไมล่ะ
เมื่อกี๊ยังปากเก่งอยู่เลย”
“คุณปฐพี คุณเมาไวน์แล้ว อึ๋ย..ปล่อยนะ”
รัญชิดาช้อนตามองใบหน้าหล่อเหลาปรากฏแววตาอ่อนเชื่อม
เธอคิดว่าเขาจะต้องดื่มไวน์เข้าไปเยอะแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่บุ่มบ่ามเหมือนคนไร้สติเช่นนี้
ดูสิ
คงดื่มจนเมาได้ที่ถึงมีพลังดุจช้างสาร ขนาดใช้มือทั้งผลักทั้งดันร่างใหญ่ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
แถมมือหนาลูบไปตามท่อนแขนเรียวที่เขาเยียวยารอยฟกช้ำไปก่อนหน้านั้นแล้วรวบมันไว้เหนือศีรษะด้วยมือแข็งแรงเพียงข้างเดียว
รวบแขนยังไม่พอยังจะใช้ท่อนขาแข็งแกร่งกดทับมาบนท่อนขาของเธอเพื่อตรึงไว้กับเบาะอีก
สกัดการดิ้นรนจนสำเร็จ จมูกโด่งก็ฉกวูบลงมาจูบซอกคอนุ่มหอม
ไม่นำพาเคราเขียวของตนที่แม้จะโกนจนเกลี้ยงเกลา
แต่ก็ก่อความสากระคายยามลากผ่านเนื้อนวลจนเกิดรอยผื่นแดง
“ฉันไม่มีวันเมาฤทธิ์ไวน์ตัวเองหรอกรัญชิดา”
เสียงอู้อี้ที่ดังเล็ดลอดออกมาจากซอกคอระหงยังปกติทุกอย่าง
นั่นเพราะปฐพีไม่ได้ขาดสติเพราะฤทธิ์ไวน์อย่างที่หญิงสาวเข้าใจ
แต่เป็นฤทธิ์แรงหึงหวงอย่างรุนแรงต่างหาก
ทั้งที่เขาพยายามให้เหตุผลตนเองมาโดยตลอดว่าที่ต้องกันหญิงสาวออกห่างผู้ชายทุกคนก็เพื่อน้องชาย
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ใช่
จะโทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวต้นเหตุที่ทำให้ใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุข
ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าตนมีเจ้าของ
ยังเที่ยวไปแจกไมตรีให้ชายคนนั้นคนนี้อีก ทั้งนายเมธีคู่อริยันสาธิตเพื่อนบ้าน
ยังไม่รวมถึงแฟนเก่าที่เขารู้ว่ายังติดต่อกันทางอีเมล ‘รัญชิดา
เธอไม่คิดจะปล่อยผู้ชายหลุดมือสักคนเลยหรือไง
นายเล็กนะนายเล็กแค่นายตายจากไปก็ทำให้พี่ปวดใจจะแย่แล้ว
ยังจะผูกสัญญาให้พี่ต้องวุ่นวายใจกับยัยเนื้อหวานนี่อีก’
“ถ้า..ถ้า
ไม่เมา แล้วทำแบบนี้ทำไม” พูดเสร็จ
หญิงสาวเบี่ยงดวงหน้าหลบริมฝีปากที่ลากไล้จากคางมนมาจรดมุมปากอิ่ม
แม้ตอนนี้ริมฝีปากของเธอเม้มสนิท แต่ไม่ช้ามันจะต้องถูกลิ้นของเขาดุนดันจนเข้าไปลิ้มรสความหวานภายในจนสำเร็จ
“อยากทำ เพราะฉันเป็นผัวเธอไง”
ปฐพีกระซิบแผ่วให้คำตอบชิดมุมปากของเธอ
ทำเอาหัวใจสาวไหวระริกราวผิวน้ำไหวกระเพื่อมเพราะถูกลมพายุพัด
และเมื่อเขาได้พูดในสิ่งที่เสียดแทงใจคนฟังแล้ว
เขาก็สวมวิญญาณเสือร้ายไล่ต้อนเหยื่อด้วยวิธีไล้ละเลียดเนื้อหวานต่อไป
“คุณ..ปฐพี
ฉัน..” เธอพยายามจะเปล่งเสียง
แต่ก็ทำได้ยากเต็มทีเพราะใช่เพียงจูบพิฆาตกำลังลามเลียความหวานในโพรงปากเธอ
แต่ยังมีมืออันตรายกำลังเคลื่อนฟอนเฟ้นอกอิ่มภายใต้เนื้อผ้ายับยู่
และอีกมือก็กำลังเคลื่อนคล้อยจากต้นขาเข้าสู่กลางลำตัว ซึ่งถ้ามือนั้นมีประกายไฟคงเผาผลาญร่างเธอจนมอดไหม้ไปหมดแล้ว
“ฉันทำอะไรผิดคุณก็บอกฉันมาตรง
ๆ ก็ได้ อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะ”น้ำเสียงออดอ้อนหวังวิงวอนให้เขาหยุดการกระทำ
เพราะเธอรู้ว่า ปฐพีจะกระโจนใช้สิทธิ์ที่เขามีเหนือเธอทันทีถ้าเธอทำให้เขาเกิดโทสะ
แต่เธอทำเรื่องอะไรล่ะ พอฉุกคิด..เธอก็รู้สึกว่าวันนี้ปฐพีดูจะโมโหเธอทั้งวัน
“รู้ตัวแล้วสิว่าทำผิด
ผิดมากด้วย ผิดจนฉันโมโห” น้ำเสียงปฐพีเยียบเย็น ก่อนจุมพิตหนักลงซอกคออีกครั้ง
และนิ้วของเขาก็เริ่มแกะกระดุมผ่าหน้าจากชายเสื้อขึ้นมาทีละเม็ดๆ
กระทั่งเหลือกระดุมเม็ดสุดท้ายตรงเนินอก
“ผิดเรื่องอะไรก็บอกฉันมาสิคะ”
คนนอนตัวสั่นสะท้านเอ่ยเสียงอู้อี้ ทั้งพยายามทำใจดีสู้เสือ..เสือที่กำลังหิวจัด
“ผิดที่เธอไปยืนคุยกับผู้ชายแปลกหน้าโดยเฉพาะมันเป็นศัตรูของฉัน
ผิดที่เธอทำท่าอี๋อ๋อกับสาธิตทั้งที่อยู่ต่อหน้าฉัน
แล้วก็ผิดที่เธอไม่ตัดขาดจากคนรักเก่า รัญชิดาเธอเป็นเมียฉันแล้ว
แต่เธอยังไม่หยุดหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายอื่นแบบนี้ มันผิดมั้ย!” เพียงจบคำพูด
มือก็ทำหน้าที่ปลดเปลื้องกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุมพอดี
เผยนวลเนื้อขาวสร่างแม้จะยังมีชุดชั้นในอีกหนึ่งปราการ
แต่มันก็ไม่อาจขวางกั้นมืออันตรายที่ขยำขยี้เนื้อนวลได้อย่างถนัดถนี่
“ฉันไม่ผิด!” หญิงสาวแผดเสียงปฏิเสธทันควัน
เมื่อได้รับฟังความผิดแต่ละข้อของตัวเอง
เธอจะผิดได้ยังไงในเมื่อทุกคนที่ได้พบล้วนมีสาเหตุของการมาพบกัน
ใช่ว่าเธอจะไปยืนคอยพบพวกเขาเสียเมื่อไหร่ล่ะ
“ไหนเธอลองพูดมาซิ
ว่าที่ฉันเห็น เธอไม่ผิดยังไง” ปฐพีเอียงหน้าขึ้นถามเพียงนิด
ก่อนจะวางคางสากระคายไว้บริเวณแก้มนวลรอคอยคำตอบจากคนที่นอนหันหน้าหนี
อีกทั้งร่างนุ่มหอมอยู่ในอาการแข็งเกร็ง ผลจากทรวงอกถูกกอบกุมนวดเฟ้นหยอกล้อเบา ๆ
ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มความหนักหน่วง จนเจ้าของมือซุกซนรู้สึกได้ว่าร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัวเลยทีเดียว
“ก็..ก็
นายเมธีนั่นฉันเจอเขาโดยบังเอิญ แล้ว..เขาก็แนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนไร่กับคุณ
ฉันก็ต้องรับการทักทายจากเขาตามมารยาท
ส่วนคุณสาธิต..เขาเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกับคุณดี
ฉันก็ต้องให้เกียรติเขา..เป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว”
ปากคอสั่นหวั่นไหวขณะรีบคิดเค้นถ้อยคำมาอธิบาย เกิดเสียงร้องหวีดออกมา เมื่อจู่ ๆ เขาก้มลงฝังจมูกโด่งลงตรงกลางร่องอก!
“แล้วเรื่องแฟนเก่าของเธอล่ะ?”
ปากเอ่ยถามผ่านร่องเนื้อนวลที่เขาฝังใบหน้าลงไปแช่นิ่ง
เนื้อหอมตรงนี้ปฐพีปรารถนาสัมผัสตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นมันโอบรับองุ่นลูกนั้น
“ฉันไม่เคยติดต่อกับเขาเลยตั้งแต่มาอยู่กับคุณ
เห็นออนไลน์คุยอยู่นั่น ฉันคุยกับแม่ประภาและไขนภาต่างหาก คุณไม่คิดถาม
มโนไปเองแล้วก็มาโมโหใส่ฉันแบบนี้ ฉันถึงบอกว่าฉันไม่ผิด”
“ใครล่ะผิด
ฉันงั้นสิ?” ใบหน้าหล่อเหลายังคงฝังแช่สูดกลิ่นหอมของเนื้อสาว น้ำเสียงถามก็แสนยียวน
“ฉันไม่โทษใครก็ได้
แต่ตอนนี้คุณลุกก่อนได้ไหมคะ ฉัน..อึดอัด”
“ไม่”
น้ำเสียงชายหนุ่มคราวนี้ราบเรียบเพราะไร้ข้อกังขา
แต่ยังตรึงใบหน้ากับเนื้อนวลไม่คิดขยับไปไหน
ปฐพียังแปลกใจว่าอะไรดลใจให้เขาทำตนคล้ายเป็นโรคจิตที่ไม่ยอมผละจากเนินอกหญิงสาวเสียที
แต่คำตอบที่ได้ก็คือความหิวกระหายที่สิงสถิตอยู่ในธรรมชาติของผู้ชายทุกคน
เขาก็ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่สำคัญเนื้อหวานชิ้นนี้มันน่ากินเหลือเกิน
“เอ้า
ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วก็ปล่อยฉันสิคะ” เธอใช้น้ำเสียงท้วงดังขึ้น
“ฉันจะลุกได้ยังไงเธอไม่สังเกตเลยหรือ
ว่าตอนนี้ร่างกายฉัน มันต้องการเธอ”
น้ำเสียงปฐพีแหบพร่าตามสถานการณ์ร่างกายเลือดหนุ่มที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วร่าง
รัญชิดาพยายามจะหรี่ตามองเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ยิ่งเห็นแววตาหยาดเยิ้มกับอาการกลืนน้ำลายลงคอ
เธอยิ่งต้องคิดหาวิธีเอาตัวรอด ใช่สิ เธอมีวิธีเอาตัวรอด
“คุณทำแบบนี้เท่ากับผิดสัญญาต่อคุณปรเมศร์นะคะ
คุณสัญญาว่าจะดูแลฉันให้ดีเพื่อเขา แล้วแบบนี้เรียกว่าดีหรือคะ
น้องชายของคุณต้องรับรู้และรู้สึกผิดหวัง
ถ้าพี่ชายที่เขาไว้ใจที่สุดทรยศคำสัญญาของเขาแบบนี้”
ได้ผลจริง
ๆ เพียงคำพูดของเธอจบลง มือหนาคลายจากข้อแขน ส่วนมือเคลื่อนคล้อยหยุดลงฉับพลัน
‘ทรยศคำสัญญา!’ เสียงขุ่นเคืองสบถอยู่ในใจ
ก่อนร่างใหญ่ขยับตัวลุกนั่ง พลางคิดว่าผู้หญิงคนนี้กล้ามาก
ที่ใช้ถ้อยคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับปรเมศร์มาเป็นเครื่องมือผลักไส
ปฐพีลงจากเตียงได้
สาวเท้าตรงไปที่ประตู แต่ก่อนจะเปิดออกไปเขาหันกลับมาเอ่ยเสียงเครียด
“เธอพูดเก่ง
แต่รัญชิดาฉันขอเตือนเลยนะ ถ้ายังอ่อยเหยื่อไม่เลิก
ฉันจะเป็นคนสำเร็จโทษเธอแทนนายเล็กเอง และน้องชายฉันก็คงไม่คิดค้าน
ถ้านั่นเป็นการลงโทษผู้หญิงที่ไม่รักดี”
ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเครียดจัด
รัญชิดาพ่นลมออกปากโล่งอกที่เห็นเขายอมปล่อยเธอง่าย
ๆ นับว่าดีที่เอาตัวรอดได้อีกหนึ่งวัน แต่ผู้ชายคนนี้ร้ายจริง ๆ
เอะอะก็จะปล้ำจนเธอหวั่นใจไม่รู้จะรอดมือไปได้สักกี่น้ำ
ไม่แน่วันพรุ่งนี้หรือวันต่อ ๆ
ไปอาจหาเหตุมากระทำมิดีมิร้ายกับเธอแบบนี้อีกก็เป็นได้
ช่างเถอะ
ค่อยแก้ไขปัญหาเป็นครั้งคราไปยังไงเธอก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้สิน่า
ในเมื่อเขาประกาศใส่หน้าเธอเองว่าพาเธอมาให้น้องชาย
ฉะนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขา
และเธอจะใช้จุดนี้แหละทำให้ตัวเองรอดพ้นจากกรงเล็บเสือร้าย
สี่ทุ่มท้องฟ้ามืดมิดถูกปกคลุมด้วยก้อนเมฆหนาที่รวมตัวกันรอเวลาหลั่งน้ำตาลงสู่พื้นดิน
กลายเป็นกิจวัตรแล้วสำหรับปฐพีที่ต้องมาเยือนกระท่อมริมธารทุกค่ำคืน
กุญแจถูกปลดล็อกก่อนผู้ที่ไขมันจะผลักบานประตูย่างกรายสู่ข้างใน
คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อหลอดไฟไม่ทำงาน
เขาลืมเสียสนิทว่าจะนำหลอดไฟมาเปลี่ยนหลังจากเมื่อวานเห็นมันติด ๆ ดับ ๆ ..เฮ้อ
ชายหนุ่มถอนใจกับความเหนื่อยหน่ายที่แฝงมาพร้อมความเศร้าละอาย
ร่างสูงใหญ่หยุดฝีเท้าลงหน้าตู้โชว์ที่ด้านบนมีกรอบรูปบุคคลอันเป็นที่รัก
ก่อนกล่าวถ้อยคำหวังทำลายความอัดอั้นที่มันสุมทุมจนแน่นอก “เล็ก พี่ขอโทษ
พี่ไม่ตั้งใจทรยศคำสัญญา แต่พี่..” คำกล่าวมีเพียงเท่านั้นจริง ๆ เพราะถ้าเพียงเขาพูดต่อเขาจะกลายเป็นคนโกหกในสายตาของปรเมศร์ทันที
และนอกจากเขาไม่ต้องการทรยศต่อคำสัญญาที่มีให้ปรเมศร์แล้ว
เขายังไม่อาจทรยศต่อหัวใจตนเองด้วย
ปฐพียืนอยู่อย่างเหงา
ๆ ท่ามกลางความมืด
เขาจะบอกต่อวิญญาณปรเมศร์ได้อย่างไรว่าเขาต้องการผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน
ทั้งที่พยายามหักห้ามแต่ยิ่งชิดใกล้เขาก็ยิ่งเห็นว่ารัญชิดามีอะไรหลายอย่างที่ถูกใจ
ไม่ว่าจะรูปกายงดงามเย้ายวน และจิตใจเข้มแข็งอ่อนโยนแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ยังมีความรักต่อไร่องุ่นของเขาอีกด้วย
ชายหนุ่มคิดว่าความถูกใจคงเริ่มก่อตัวนับแต่ติดตามประวัติและได้พบตัวจริงของรัญชิดาในวันนั้นแล้ว..หญิงสาวสวยวัยยี่สิบสามสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนหวานนั่งด้วยท่าทางนิ่งสงบ
หลังจากรับฟังจุดประสงค์ที่เขาเข้ามาพูดคุยพร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง
หญิงสาวไม่มีอาการตีโพยตีพายหรือแม้แต่คร่ำครวญหวนไห้ในขณะที่เขาเสนอเงื่อนไขจดทะเบียนสมรสเพื่อแลกกับเงินห้าล้าน
อาจจะดูเหมือนรัญชิดาตกลงรับเงื่อนไขอย่างง่ายดาย
แต่ปฐพีรู้ดีว่ารัญชิดาทำไปภายใต้แรงกดดัน
ส่วนหนึ่งเพราะหญิงสาวรู้ถึงความรับผิดชอบที่ตนเป็นต้นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อีกส่วนคงเพราะหญิงสาวรักบ้านซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาถึงตนหลังจากบิดามารดาได้เสียชีวิต
และรัญชิดารักครอบครัวใหม่ที่มีแม่เลี้ยงใจดีอีกทั้งน้องสาวร่วมสายโลหิตที่น่ารัก
ความรักที่รัญชิดามีต่อทุกคนในครอบครัวทำให้หญิงสาวต้องรักษาที่พำนักหลังนี้ไว้เพื่อแม่คนที่สองและน้องสาวจะไม่ลำบาก
ก่อนหน้านั้นเขาไร้หนทางที่จะทำตามคำขอร้องของปรเมศร์เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเพื่อนำตัว
รัญชิดาเดินทางมาอยู่ไร่ปานเทวาด้วยกัน แต่แล้วการจ้างนักสืบคอยติดตามสืบประวัติของหญิงสาวชนิดละเอียด ก็ทำให้เขารู้ว่าบ้านหลังใหญ่ที่สามแม่ลูกอาศัยอยู่นั้นติดจำนองและได้ขาดส่งดอกเบี้ยจนกระทั่งมีจดหมายประทับตราด่วนพิเศษจากธนาคาร เขานำจุดนี้มาเป็นข้อต่อรอง และสิ่งสำคัญที่เขานำมากดดัน
รัญชิดาอย่างหนักคือจดหมาย..ซึ่งจดหมายมรณะฉบับนั้นก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้รัญชิดาต้องเดินทางมาชดใช้หนี้หัวใจที่ไร่แห่งนี้
รัญชิดาเดินทางมาอยู่ไร่ปานเทวาด้วยกัน แต่แล้วการจ้างนักสืบคอยติดตามสืบประวัติของหญิงสาวชนิดละเอียด ก็ทำให้เขารู้ว่าบ้านหลังใหญ่ที่สามแม่ลูกอาศัยอยู่นั้นติดจำนองและได้ขาดส่งดอกเบี้ยจนกระทั่งมีจดหมายประทับตราด่วนพิเศษจากธนาคาร เขานำจุดนี้มาเป็นข้อต่อรอง และสิ่งสำคัญที่เขานำมากดดัน
รัญชิดาอย่างหนักคือจดหมาย..ซึ่งจดหมายมรณะฉบับนั้นก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้รัญชิดาต้องเดินทางมาชดใช้หนี้หัวใจที่ไร่แห่งนี้
ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งเอนกายพิงตู้โชว์ซึ่งภายในกักเก็บอดีตผู้เป็นน้องชายแทบทุกชิ้น
ฝ่ามือหนาหยาบกร้านจากการทำงานหนักยกขึ้นลูบใบหน้าก่อนจะทิ้งลงข้างลำตัว
ขาทั้งสองเหยียดตรงและหลับตาหวังขับอารมณ์เครียดที่รุมเร้าจนใจอ่อนล้าออกไปบ้าง
ได้พักสักนิดร่างกายและจิตใจที่นับวันจะเพิ่มพูนความผูกพันที่มีต่อภรรยาเพียงในนามคงผ่อนคลายลง
ช่วงเวลานาทีผ่านไปเท่าไรแล้วไม่รู้
ปฐพีรู้เพียงว่าผิวกายสัมผัสถึงความเย็น
เป็นความเย็นที่เกิดจากน้ำเสียงคุ้นหูคุ้นใจดังขึ้นอยู่ใกล้ ๆ
ซึ่งนำพาหัวใจสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอย่างประหลาด
‘พี่ใหญ่ คุณรัญเป็นคนดี พี่ต้องรักเธอนะครับ’
“เล็ก
เล็ก เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป..” ปฐพีสะดุ้งตื่น ชายหนุ่มสลัดศีรษะขับไล่อาการมึนงง
เมื่อกี๊เขาเคลิ้มหลับแล้วฝันแปลก ๆ เหมือนปรเมศร์มานั่งคุยอยู่ใกล้ ๆ
ชายหนุ่มยกมือลูบใบหน้าเพื่อขับไล่อาการสะลึมสะลืออีกครั้ง
ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อตอนลืมตาขึ้นมาเขาสัมผัสหัวใจเบาหวิวของตน
เหมือนกับว่าหัวใจที่เคยถูกพันธนาการได้รับการปลดปล่อย
คิ้วเข้มดำเลิกขึ้นพิศวงว่าการได้หลับสักงีบมันส่งผลให้หัวใจโปร่งโล่งได้มากเช่นนี้เชียวหรือ
ร่างสูงลุกขึ้นหยัดยืนตั้งใจบอกลาผู้เป็นเจ้าของกระท่อมน้อยหลังนี้
แต่ต้องหยุดนิ่งเพราะเสียง
แกร๊บ..เหมือนเสียงใบไม้ถูกเหยียบด้วยฝีเท้าของผู้ที่กำลังมุ่งบุกรุกสถานที่หวงแหนของเขา
บนใบหน้าหล่อเหลาปรากฏความไม่พอใจทันที
ส่วนผู้บุกรุกสาวกำลังเดินกะเผลกเหยียบย่ำมาตามเส้นทางที่นำไปสู่กระท่อมปริศนา
เธอทิ้งช่วงเวลาพอสมควรหลังจากเห็นปฐพีเดินพ้นชายคาก่อนจะตามเขามาแม้ว่าท้องฟ้าดำทะมึนตั้งเค้าจะปล่อยฝนตกกระหน่ำตั้งแต่เย็นแล้วก็ตาม
ซึ่งนั่นก็เป็นผลดีที่เธอจะใช้เป็นข้ออ้างในการนำร่มที่ถือติดมือมาสองคันให้กับเขา
เพื่อที่ตัวเธอจะได้ไม่ถูกต่อว่าในความสอดรู้สอดเห็นกับเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก
รัญชดายังรู้สึกวาบหวามใจทุกครั้งที่นึกถึงบทลงโทษของเขาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
แต่นั่นไม่ทำให้เธอล้มเลิกค้นหาคำตอบกับบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลาง’แปลงดอกไม้’หลังนี้เลย ร่างเล็กหยุดยืนอยู่สถานที่ที่ทุกคนต่างขานนามว่ากระท่อมริมธาร
สถาปัตยกรรมริมธารก่อสร้างด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มที่ลงขัดเงาวาววับทั้งหลังโดยยกเสาสูงจากพื้นหนึ่งเมตรมีบันไดสามขั้น
บนราวจับล้วนประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสันสดใสแขวนเรียงสุดชานระเบียง
กรอบประตูไม้แกะสลักด้วยลวดลายเถาไม้เลื้อยงดงาม
มือเรียวเอื้อมจับกุญแจที่ถูกปลดล็อกแต่ยังคล้องไว้ มือวางร่มที่ถือลงพร้อมส่งสายตามองไปรอบบริเวณที่มีแต่ความมืด เธอแง้มประตูเบา
ๆเพื่อพาร่างเข้ามาหยุดยืนด้านใน ถึงกระนั้นก็นึกเอะใจ
ว่าปฐพีกลับไปบ้านหลังใหญ่หรือยังหนอ
แล้วเหตุใดเขาจึงไม่ล็อกประตูและเหตุใดจึงไม่เดินสวนทางกับเธอ
หญิงสาวกดสวิตซ์เปิดไฟแต่ไฟนิ่งไม่ให้ความสว่าง
เธอคิดว่าไฟหลอดนี้น่าจะเสียแต่คิดในแง่ดีก็คือความมืดมันไม่ก่อความสงสัยให้กับชายหนุ่มที่กลับไปแล้ว
เพราะถ้าไฟสว่างไม่แน่เขาอาจจะย้อนกลับมา
สายตาที่ปรับแสงสลัวภายในห้องได้แล้ว
เริ่มมองกวาดเก็บทุกรายละเอียด บนผนังทั้งสี่ด้านไม่เว้นแม้กรอบหน้าต่างที่มีม่านสีขาวปิดอยู่ล้วนมีแต่ภาพของชายหนุ่มเจ้าของสถานที่
รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนใน
คณะสถาปัตยกรรม ซึ่งทุกชิ้นถูกจัดเก็บไว้ในตู้โชว์กระจกใส
คณะสถาปัตยกรรม ซึ่งทุกชิ้นถูกจัดเก็บไว้ในตู้โชว์กระจกใส
เธอขยับฝีเท้าก้าวมาหยุดอยู่ด้านหน้ากรอบรูปที่วางตั้งอยู่บนหลังตู้นั้น
หนุ่มวัยรุ่นหน้าตายิ้มแย้มแม้ว่าสีหน้าติดจะซีดไปสักหน่อยแต่ภายในแววตาของเขาฉายถึงความสุขชัดเจน
และเมื่อสายตาเลื่อนมาด้านข้างก็ต้องเบิกกว้างกับรูปภาพหญิงสาวที่มีรอยยิ้มสดใสเช่นกัน
ภาพสองภาพตั้งคู่ราวเป็นคู่รักที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันและกันตลอดกาล
รัญชิดาไม่รู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกเช่นไรกับภาพที่เห็น
แต่หัวใจเธอคล้ายหลั่งน้ำตาให้กับคนที่เขามองเห็นคุณค่าในตัวเธออย่างล้นเหลือ ‘ถึงฉันจะไม่เคยรู้ว่าคุณเป็นใคร
แต่ฉันขอบคุณสำหรับความรักที่คุณมีให้ฉันนะคะคุณปรเมศร์’
“กล้ามากนะ
ตามมาถึงที่แบบนี้” เสียงห้วนที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่ถูกโอบมาจากด้านหลัง
หญิงสาวสะดุ้งโหยงไม่ทันจะคิดว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
“ปล่อยนะคะคุณปฐพี!”
“ฉันปล่อยเธอแล้วนะรัญชิดา
แต่เธอนั่นแหละเป็นฝ่ายมาหาฉันเอง” เสียงห้วนเจืออารมณ์ขัน
ที่ไม่ต้องออกไล่ตะครุบเหยื่อให้เหนื่อยแรง
ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาหญิงสาวยังภูมิใจที่สามารถเอาตัวรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาต
แต่ตอนนี้สิเธอกลับเดินมาล่อเหยื่อให้เสือหนุ่มขย้ำเอาได้
ทว่าเมื่อรัญชิดานึกถึงวิธีเอาตัวรอดในช่วงเวลาคับขัน
ริมฝีปากอิ่มก็ยิ้มกระหยิ่มขึ้นมาทันที
“คุณกล้าผิดคำสัญญาต่อหน้าคุณปรเมศร์หรือคะ
มันคงไม่ดีหรอกมั่ง”
พูดจบมือเล็กก็เริ่มแกะมือเหนียวหนึบที่เคลื่อนมารัดรึงใต้ทรวงอก
แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจ
มืออันตรายนั่นยังจับใบหน้าเรียวหันไปรับจุมพิตที่กดลงมารวดเร็วเข้าไปอีก
ปฐพีนึกขำกับเพทุบายที่หญิงสาวนำมาต่อสู้กับเขา
หึ..ครั้งนี้มันใช้ไม่ได้ผลหรอกรัญชิดา
ใบหน้าหล่อเหลากดซุกไซ้ซอกคอไล้ลงมาหัวไหล่กลมกลึงขบฟันลงเนื้อเบา ๆ
ด้วยความหมั่นเขี้ยวที่อีกฝ่ายช่างมีลูกล่อ
ลูกชนกับเขาเสียจริง
ลูกชนกับเขาเสียจริง
ร่างเล็กดิ้นรนเพื่อให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ พร้อมกับเปล่งเสียงสั่นย้ำเตือนถึงถ้อยคำนั้นอีก
“คุณรังแกผู้หญิงของน้องชาย
เขาจะต้องเสียใจ อุ๊บ!”
จบถ้อยคำปากสั่นระริกก็โดนปิดอีกครั้งคราวนี้แทบไม่มีช่องว่างให้เธอได้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว
ประจวบเหมาะกับการถูกอุ้มขึ้นไปวางบนผ้าคลุมเตียงสีขาวพร้อมกับร่างใหญ่กดทับตามมา
เธอคิดว่าจะต้องพยายามดิ้นให้หลุดแม้จะเหนื่อยหอบแทบขาดใจ แต่มันไม่เป็นประโยชน์เลยสักนิดเพียงแค่เขาสัมผัสจับต้องไปทั่งเรือนร่างใจที่คิดค้านก็เริ่มหวั่นไหวอ่อนยวบ
นั่นเพราะ
ไม่มีสิ่งใดยับยั้งฤทธิ์รักของชายหนุ่มได้อีก
ยิ่งเธอตะโกนใส่หน้าเขาเรื่องถ้อยคำสัญญานั้นเพียงไร สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูเบิกบาน
ราวกับว่าเขาได้หลุดพ้นจากคำสัญญาเหล่านั้นแล้ว
ร่างใหญ่ที่ทาบทับบนเนื้อเนียนนุ่มขยับออกนิดโดยใช้ท่อนแขนแกร่งค้ำยัน
สายตาคมมองจับไปที่นวลแก้มแดงระเรื่อกับริมฝีปากบวมเจ่อที่ถูกบดจูบไม่ยั้ง
“รัญชิดา
เธอเป็นผู้หญิงของฉันแล้ว”
นิ้วชี้ของเขายกมาปิดกั้นริมฝีปากอิ่มที่กำลังเอื้อนเอ่ย “หยุดฟัง
แล้วฟังอย่างตั้งใจ เพื่อที่เธอจะได้เลิกใช้คำสัญญามาหยุดความต้องการของฉันเสียที”
ดวงตาสวยกะพริบถี่
ร่างกายที่นิ่งงันหายใจเข้าออกรัวเร็วเพื่อขับไล่อาการตื่นเต้นที่วิ่งพล่านไปทุกอณู
รอคอยถ้อยคำที่เตรียมพรั่งพรูตัดสินชะตา
“นายเล็กคือเหตุผลที่ฉันพาเธอมาที่นี่
แต่ในความเป็นจริงเธอคือเมียของฉัน และนายเล็กเห็นด้วยที่ฉันจะเป็นคนดูแลเธอ”
ปฐพีจำได้ถึงสัมผัสในห้วงฝันที่ปรเมศร์จับมาบนบ่าของเขา
เพื่อให้เขามั่นใจและทำตามความปรารถนาของหัวใจตนเอง
นิ้วมือชายหนุ่มเคลื่อนไปตามรูปปากอิ่มจังหวะที่จ้องลึกเข้าไปในแววตาสวยเป็นประกาย
ถ้อยคำสุดท้ายก็พรั่งพรูออกมา “ฉันต้องการเธอ นายหญิงรัญ”
หญิงสาวหยุดหัวใจรับฟังเสียงแหบพร่าเอ่ยถ้อยคำที่ทำหัวใจรัญจวน
เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินน้ำคำดุจเว้าวอนแบบนี้
ในเมื่อทุกครั้งที่ผ่านมาเขามักใช้กำลังเรียกร้องโดยไม่คำนึงถึงหัวใจบาง ๆ
ของเธอเลย
“แต่ความต้องการของคุณมันเกิดจากหนี้แค้น”
น้ำเสียงหวานท้วงขึ้นแผ่วเบา จะให้เชื่อคำพูดของเขาง่าย ๆ ได้อย่างไร
“มันอาจจะเริ่มจากตรงนั้น
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เรื่องระหว่างเราต่อจากนี้มันจะเกิดจากหัวใจของฉันเอง”
เพื่อเธอ ผู้หญิงที่ปฐพีเพียรปฏิเสธเรื่อยมา ด้วยการสร้างกำแพงสัญญาเพื่อกั้นขวางทุกความรู้สึกในหัวใจชาย
“คุณปฐพี..”
รัญชิดาเบิกบาน
รับรู้ว่าหัวใจส่วนที่เว้าแหว่งกำลังจะได้ชิ้นส่วนที่ขาดหายมาเติมเต็ม
“ฉันรู้ใจตัวเองแล้ว
ว่าต้องการเธอ และต่อแต่นี้ไปเธอก็ต้องเรียนรู้ชีวิตคู่ของเราด้วย เข้าใจไหม”
ชายหนุ่มก้มลงมากระซิบชิดริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะแนบจุมพิตลงมาเบา ๆ
นุ่มนวลอ่อนหวานอย่างที่เขาไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
การไม่ปฏิเสธจุมพิตของเขาคือคำตอบจากหญิงสาว
ในเมื่อความใกล้ชิดสนิทเสน่หากันบ่อยครั้งสั่นคลอนหัวใจเธอมาพักหนึ่งแล้ว
เพียงแต่เธอและเขาต่างวางหัวใจบนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบให้ได้พินิจถึงความรู้สึกของกันและกันอย่างถ้วนถี่
ต่างจากวันนี้เวลานี้ที่สองหัวใจพร้อมจะมาบรรจบและร่วมเดินบนเส้นทางเดียวกันแล้ว
แขนเรียวขยับโอบกอดต้นคอเขาไว้อย่างยินยอมพร้อมใจ
ด้วยเวลานี้หัวใจเธอพ่ายแพ้ต่อแรงปรารถนาที่มีต่อเขา ปฐพีครางลึกในลำคอเพราะยิ่งเขาจูบไล้เล่นลิ้นยิ่งโหมไฟเสน่หา
หนักเข้าริมฝีปากหนาละจาก
ริมฝีปากอิ่มลงมายังทรวงอกงามล้นมือ พร้อมดันยอดประทุมโผล่พ้นเนื้อผ้า ใช้ริมฝีปากกดคลึงอย่าง
ทะนุถนอมแล้วเข้าครอบครองยอดทับทิมด้วยการดูดดึงอย่างหรรษา
ริมฝีปากอิ่มลงมายังทรวงอกงามล้นมือ พร้อมดันยอดประทุมโผล่พ้นเนื้อผ้า ใช้ริมฝีปากกดคลึงอย่าง
ทะนุถนอมแล้วเข้าครอบครองยอดทับทิมด้วยการดูดดึงอย่างหรรษา
ยิ่งปฐพีเคล้าคลึงหนักหน่วงคนใต้ร่างยิ่งสะท้านหวั่นไหว
จนต้องแทรกปลายนิ้วลงในเส้นผมยุ่งเหยิงของเขา ใบหน้าที่ซุกไซ้อยู่บริเวณเนินเนื้อเงยขึ้นส่งเสียงคราง
พลางสบนัยน์ตาไม่ประสีประสาระคนเว้าวอนสับสนของหญิงสาว กระทั่งเขาทนความหอมหวานจากกายสาวไม่ไหว
ร่างใหญ่ผละจากอกสวยและลุกขึ้น
เปลื้องผ้าของตนอย่างรวดเร็ว เผยเรือนร่างแข็งแรงกำยำของบุรุษเพศ
ดวงตาหญิงสาวถึงกลับเบิกกว้างใบหน้าแดงซ่านต้องรีบหันหนี
ปฐพียิ้มร่าชอบใจในอากัปกิริยาขวยเขินนั้น เขาโน้มกายเปลือยมาหาร่างนอนนิ่ง
พร้อมลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกายหญิงสาวเช่นกัน
รัญชิดาสะดุ้งโหยง
เมื่อสองร่างต่างไร้อาภรณ์ปิดกั้นแล้วเขาทาบทับลำตัวลงมาหา
ทำให้เธอสัมผัสความร้อนฉ่าเสียดสีบริเวณโคนขาอ่อนเรียว
เรียกเลือดสูบฉีดจนผิวกายสาวกลายเป็นสีชมพู
ปฐพีหยัดกายขึ้นจากร่างเล็กเพียงเล็กน้อย
ก่อนจะวกกลับมากดจูบหน้าท้องน้อยอย่างละเลียด สองมือไล้ลงช่วยแยกเรียวขา ก่อนแทรกใบหน้าลงยังใจกลางหญิงสาวอย่างนุ่มนวล
ภมรหนุ่มส่งปลายลิ้นตวัดชิมน้ำหวานพร่างพรมอยู่ภายในเกสรดอกไม้
ซึ่งสร้างความหลงใหลในรสหวานที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมนุษย์ จนไม่อาจหยุดยั้งใจชิมรสชาติหวานล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้
ร่างกายสาวบิดพลิ้วอย่างซาบซ่านในความหฤหรรษ์ที่ไม่เคยได้พบพาน
หากแต่ภมรหนุ่มกลับหลงใหลอยู่ในรสชาติอันหอมหวานจากเกสรดอกไม้
มิได้สนใจร่างเล็กที่ตอนนี้บิดเร่าด้วยแรงปรารถนาสักนิดเลย
ต่อเมื่อลิ้มรสกายสาวจนพอใจใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นพิศมองเธอด้วยแววตาเว้าวอน
จนเธอสัมผัสได้ถึงความปรารถนาอันเร่าร้อนล้ำลึกในดวงตาของเขา จากนั้นเขาค่อย ๆ
เลื่อนกายขึ้นมาหาใบหน้าหวานและกระซิบเอ่ยขอที่ข้างใบหู
“ขอฉันนะ
รัญชิดา” ชายหนุ่มจ้องดวงตาสวยแน่นิ่งเพื่อขอคำยืนยัน
ว่าหญิงสาวพร้อมมอบทั้งกายและใจให้กับเขาด้วยความรักทั้งหมดที่มี
“ค่ะ”
ใบหน้าเพริศพริ้งพยักหน้าตอบอย่างเอียงอาย
ในเมื่อหัวใจของเขาพร้อมที่จะรับเธอเป็นส่วนหนึ่ง
เธอจึงพร้อมเช่นกันกับความรักที่จะมาเติมเต็มหัวใจให้เต็มดวง
ท่อนแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่มเมื่อใบหน้าของเขาโน้มต่ำลงมา
ปฐพีส่งความหวานล้ำผ่านปลายลิ้น
ริมฝีปากอิ่มตอบรับจุมพิตรัญจวนด้วยความเต็มใจ จนสิ้นสุดเวลาที่รอคอย
เขาใช้หัวเข่าดันเปิดทางช่วงล่างอีกนิด ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้า
หลอมรวมสองร่างให้เป็นหนึ่งเดียว
“อื้อ..คุณ
ปฐพี”
“ชู้ส์
อีกนิดเดียวรัญชิดา”
อ้อมแขนเล็กเรียวเอื้อมมาขยุ้มจิกเล็บลงแผ่นหลังชุ่มเหงื่อ
ในนาทีที่เขามอบความเจ็บปวดระคนหวามไหวและกลายเป็นนาทีแห่งความสุขสันต์
ปฐพีสื่อสารความในใจผ่านจังหวะรักอ่อนหวานไปสู่ความร้อนแรง
จนกระทั่งสิ้นสุดจังหวะรักด้วยความสุขสม
สรรพสิ่งใด
ๆ ล้วนหลับใหลไปพร้อมความมืดมิด
จะมีก็แต่เสียงหอบหายใจกระเส่าของคู่รักคู่หนึ่งที่เริ่มบทเพลงแห่งรัก สอดประสานกันอีกครั้งท่ามกลางสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา
และราตรีอันยาวนานทำให้ทั้งสองมอบความรักให้กันและกันอย่างมีความสุขตลอดคืน
ภายใต้อากาศอันเหน็บหนาวจากสายฝนพรำ
สองหนุ่มสาวที่ตกอยู่ในห้วงหัวใจอบอุ่นไม่รู้เลยว่าจากวันพรุ่งนี้ไปพวกเขาจะได้พบกับเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเยือนเป็นบททดสอบความรักของตน
โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน
ไร่เสน่หาจองจำหัวใจ
ทำมือขาย: 200 + 40 = 240 บาท
ยอดโอนยืม ราคาปก 319 + 40 =359
(พื้นที่ห่างไกลลงทะเบียน)
ซึ่งร้านรับคืนหนังสือแล้วโอนคืนลูกค้า 319-31=288 บาท
เงื่อนไขราคาเช่า : เช่าเหมา 7 วัน ราคา 10%ของราคาปก ตัวอย่างการยืม
เช่น นิยายราคาปก 200x10%=20 บาทซึ่ง ยอดยืม 20 บาทนี้จะหักจากค่ามัดจำที่ผู้ยืมต้องจ่ายตามราคาปกก่อน เมื่อส่งหนังสือคืนแล้ว
จะโอนคืนส่วนที่หักค่ายืมแล้วค่ะ
หมายเหตุ : ยืมได้ครั้งละไม่เกิน 2 เล่ม ส่งคืนตามวันที่ระบุ ถ้าเลยกำหนดส่งสองวันขอหักยอดที่จะโอนคืนวันละ 2 บาทค่ะ และขอย้ำว่าต้องวางมัดจำตามราคาปกทุกเล่มค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น