ความรักเป็นหนึ่งในความรู้สึกที่มีอิทธิพลต่อหัวใจ โดยเฉพาะความรัก 'โรแมนติก' มีอานุภาพรุนแรงที่สุดในโลก เพราะเมื่อใดหัวใจมีรัก มันจะต้องการความรักตอบสนอง ซึ่งความต้องการนั้นจะส่งผลต่อสมองและพฤติกรรมสามารถผลักดันให้คนคนหนึ่งลุกขึ้นมาเต้นรำเพื่อความรัก ยิ้มหัวเราะเพราะความรัก ร้องไห้เพราะความรัก มีชีวิตอยู่เพื่อความรัก และยอมตายเพื่อความรัก
วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563
วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2563
ความรักคือ
รักคือ โชค
รักคือ ยาสมานแผล
รักคือ ความหวัง กำลังใจ
รักคือ ศิลปะ
รักคือ โอกาส
รักคือ สิ่งเติมเต็ม
รักคือ สิ่งที่ทำให้เราโง่หรือฉลาดได้
รักคือ...?
รัก..ตามความหมายของ..อีรอส(คำภาษากรีกหมายถึงความรัก) คือ ความใกล้ชิดทางอารมณ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในครอบครัวเป็นรักร่วมสายเลือด เกิดขึ้นในสังคมเป็นรักแบบมิตรภาพ อุทิศตัว เกิดขึ้นในศาสนาเป็นรักแบบศรัทธา และรักแบบเสน่หาคือรักแบบโรแมนติกที่มีเรื่องเพศเกิดแรงดึงดูดระหว่างกันอย่างรุนแรง อารมณ์อันมีความรู้สึกมีอำนาจนี้สามารถทำให้เราเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจฉะนั้นรักคือ...สิ่งที่ไร้นิยาม
เพราะ รัก เป็นความใกล้ชิดทางอารมณ์ซึ่งก่อให้เกิดรักได้หลากหลาย
ฉะนั้นเมื่อรักถูกความรู้สึกซับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ก็เป็นการยากที่จะให้ความหมายความรักให้แน่นอน แม้จะเทียบกับสภาพอารมณ์อื่น
ๆ แล้วก็ตาม
วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563
ความรักมีอำนาจ
ความรัก คือ อารมณ์ ที่ให้ความรู้สึกมีพลัง มีอำนาจ พ่อแม่มีพลังจากความรักที่มีต่อลูก ลูกมีพลังที่ได้ความรักจากพ่อแม่ หรือความรักที่เกิดจากความเสน่หา อำนาจตามความหมายนี้คือความรักที่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง อำนาจแห่งรักชนิดนี้สามารถทำให้อีกฝ่ายทำอะไรเพื่อตนได้ หรือแม้กระทั่งความรักมีอำนาจสั่งให้เราทำเพื่ออีกฝ่ายได้ ซึ่งอาจส่งผลทั้งด้านดีและด้านลบ ฉะนั้นความรักจึงมีทั้งความสวยงามและความน่ากลัว ซึ่งจะปรากฏด้านใดขึ้นอยู่กับวิธีรัก
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563
นิยามความรัก
นิยามรักตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 'รัก' เป็นคำกริยา หมายถึง มีใจผูกพันด้วยความห่วงใย มีใจผูกพันด้วยความเสน่หา
..แต่บางคนกลับบอกความรักไม่มีนิยาม ความรักไร้ขอบเขต ไร้พรมแดน
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ? เคยมีคำตอบเรื่องรักที่ชัดเจนให้กับตัวเองบ้างไหม เคยรู้ความหมายที่แท้จริงของมันบ้างหรือเปล่า
เชื่อเถอะ! ถามหานิยามความรักแต่ละคน จะได้รับคำตอบไม่เหมือนกันสักคน
สำหรับยูถิกา 'รัก' คือแรงดึงดูด ถ้ามีรักก็จะมีแรงดึงดูดเข้าหากัน อยากพบ อยากเห็นหน้า อยากเสน่หา อยากใกล้ชิด แต่ถ้าหมดรักแรงดึงดูดก็หมดพลัง ความผูกพันคลายตัวลง ความรู้สึกค่อย ๆ เจือจางจนกระทั่งห่างหายไป ฉะนั้น นิยามความ'รัก' สำหรับยูถิกาคำตอบขึ้นอยู่กับช่วงเวลาว่ามีปฏิสัมพันธ์อย่างไร
ทว่านิยามความรักจะมีความหมายอย่างไร ยูถิกาก็ชอบความรัก เพราะถ้าไม่ชอบเรื่องรักยูถิกาคงเขียนนิยายรักไม่ได้
วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ดอกทิวาราตรี และ ดอกราตรี
ดอกทิวาราตรี
ความสูง 2-5 เมตร ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ไม้ดอกหอมสกุลเดียวกับดอกราตรี ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ดอกเล็กมี 5-6 กลีบ ปลายกลีบม้วนออกกลิ่น โคนกลีบดอกเป็นหลอด
หอมตอนกลางวัน
ออกดอกตลอดปี
ชอบแดดจัดหรือแดดเต็มวัน
ชอบดินชุ่มชื้น
https://sites.google.com/site/dxkminanachnid/dxk-thiwa-ratr
ดอกราตรี
ชื่ออื่น ; Lady of the Night หรือ ดอกหอมดึก
ราตรีเป็นไม้พุ่มขนาดย่อม ดอกออกเป็นช่อสีขาว ดอกมีขนาดเล็กรูปทรงกระบอก ช่อหนึ่ง ๆ ปลายดอกบานออกเป็นรูปดาว 5 แฉก
ราตรีเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมในเวลากลางคืน มีกลิ่นเย็นเรื่อย ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป ทำให้มีชื่อว่า หอมดึก แต่พอเช้าจะหมดกลิ่น ส่วนมากนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน
ดอกราตรีจะบานและหอมโชยราว 2 ทุ่ม ไปจนรุ่งเช้าจะค่อย ๆ หมดกลิ่น
https://www.thipacompany.com/product/227/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5-night-jasmine-fragrance?pid=229
ความสูง 2-5 เมตร ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ไม้ดอกหอมสกุลเดียวกับดอกราตรี ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ดอกเล็กมี 5-6 กลีบ ปลายกลีบม้วนออกกลิ่น โคนกลีบดอกเป็นหลอด
หอมตอนกลางวัน
ออกดอกตลอดปี
ชอบแดดจัดหรือแดดเต็มวัน
ชอบดินชุ่มชื้น
ดอกราตรี
ชื่ออื่น ; Lady of the Night หรือ ดอกหอมดึก
ราตรีเป็นไม้พุ่มขนาดย่อม ดอกออกเป็นช่อสีขาว ดอกมีขนาดเล็กรูปทรงกระบอก ช่อหนึ่ง ๆ ปลายดอกบานออกเป็นรูปดาว 5 แฉก
ราตรีเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมในเวลากลางคืน มีกลิ่นเย็นเรื่อย ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป ทำให้มีชื่อว่า หอมดึก แต่พอเช้าจะหมดกลิ่น ส่วนมากนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน
ดอกราตรีจะบานและหอมโชยราว 2 ทุ่ม ไปจนรุ่งเช้าจะค่อย ๆ หมดกลิ่น

https://www.thipacompany.com/product/227/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5-night-jasmine-fragrance?pid=229
วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563
ไร่เสน่หาจองจำหัวใจ : บทที่ 16 ฤทธิ์รัก
ปฐพีไม่สนกับอาการดิ้นหนีตายของหญิงสาว
และไม่ว่าจะได้ยินเสียงร้องเสียงห้ามอย่างไรก็ไม่คิดหยุดฟัง
เพราะเวลานี้ทุกอณูในกายหนุ่มมัวเมากับเสน่หาที่ก่อตัวจากความหึงหวงจนลืมทุกอย่างไปหมดสิ้น
ลืมแม้กระทั่งว่าท่อนแขนท่อนขาของอีกฝ่ายมันมีรอยเขียวช้ำ
เขาวางแผ่นหลังเนียนนุ่มกระแทกลงบนที่นอน
พร้อมร่างใหญ่ของตนทาบทับลงมา ก่อนปล่อยน้ำเสียงขึ้งเคียด
“ดิ้นทำไมล่ะ
เมื่อกี๊ยังปากเก่งอยู่เลย”
“คุณปฐพี คุณเมาไวน์แล้ว อึ๋ย..ปล่อยนะ”
รัญชิดาช้อนตามองใบหน้าหล่อเหลาปรากฏแววตาอ่อนเชื่อม
เธอคิดว่าเขาจะต้องดื่มไวน์เข้าไปเยอะแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่บุ่มบ่ามเหมือนคนไร้สติเช่นนี้
ดูสิ
คงดื่มจนเมาได้ที่ถึงมีพลังดุจช้างสาร ขนาดใช้มือทั้งผลักทั้งดันร่างใหญ่ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
แถมมือหนาลูบไปตามท่อนแขนเรียวที่เขาเยียวยารอยฟกช้ำไปก่อนหน้านั้นแล้วรวบมันไว้เหนือศีรษะด้วยมือแข็งแรงเพียงข้างเดียว
รวบแขนยังไม่พอยังจะใช้ท่อนขาแข็งแกร่งกดทับมาบนท่อนขาของเธอเพื่อตรึงไว้กับเบาะอีก
สกัดการดิ้นรนจนสำเร็จ จมูกโด่งก็ฉกวูบลงมาจูบซอกคอนุ่มหอม
ไม่นำพาเคราเขียวของตนที่แม้จะโกนจนเกลี้ยงเกลา
แต่ก็ก่อความสากระคายยามลากผ่านเนื้อนวลจนเกิดรอยผื่นแดง
“ฉันไม่มีวันเมาฤทธิ์ไวน์ตัวเองหรอกรัญชิดา”
เสียงอู้อี้ที่ดังเล็ดลอดออกมาจากซอกคอระหงยังปกติทุกอย่าง
นั่นเพราะปฐพีไม่ได้ขาดสติเพราะฤทธิ์ไวน์อย่างที่หญิงสาวเข้าใจ
แต่เป็นฤทธิ์แรงหึงหวงอย่างรุนแรงต่างหาก
ทั้งที่เขาพยายามให้เหตุผลตนเองมาโดยตลอดว่าที่ต้องกันหญิงสาวออกห่างผู้ชายทุกคนก็เพื่อน้องชาย
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ใช่
จะโทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวต้นเหตุที่ทำให้ใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุข
ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าตนมีเจ้าของ
ยังเที่ยวไปแจกไมตรีให้ชายคนนั้นคนนี้อีก ทั้งนายเมธีคู่อริยันสาธิตเพื่อนบ้าน
ยังไม่รวมถึงแฟนเก่าที่เขารู้ว่ายังติดต่อกันทางอีเมล ‘รัญชิดา
เธอไม่คิดจะปล่อยผู้ชายหลุดมือสักคนเลยหรือไง
นายเล็กนะนายเล็กแค่นายตายจากไปก็ทำให้พี่ปวดใจจะแย่แล้ว
ยังจะผูกสัญญาให้พี่ต้องวุ่นวายใจกับยัยเนื้อหวานนี่อีก’
“ถ้า..ถ้า
ไม่เมา แล้วทำแบบนี้ทำไม” พูดเสร็จ
หญิงสาวเบี่ยงดวงหน้าหลบริมฝีปากที่ลากไล้จากคางมนมาจรดมุมปากอิ่ม
แม้ตอนนี้ริมฝีปากของเธอเม้มสนิท แต่ไม่ช้ามันจะต้องถูกลิ้นของเขาดุนดันจนเข้าไปลิ้มรสความหวานภายในจนสำเร็จ
“อยากทำ เพราะฉันเป็นผัวเธอไง”
ปฐพีกระซิบแผ่วให้คำตอบชิดมุมปากของเธอ
ทำเอาหัวใจสาวไหวระริกราวผิวน้ำไหวกระเพื่อมเพราะถูกลมพายุพัด
และเมื่อเขาได้พูดในสิ่งที่เสียดแทงใจคนฟังแล้ว
เขาก็สวมวิญญาณเสือร้ายไล่ต้อนเหยื่อด้วยวิธีไล้ละเลียดเนื้อหวานต่อไป
“คุณ..ปฐพี
ฉัน..” เธอพยายามจะเปล่งเสียง
แต่ก็ทำได้ยากเต็มทีเพราะใช่เพียงจูบพิฆาตกำลังลามเลียความหวานในโพรงปากเธอ
แต่ยังมีมืออันตรายกำลังเคลื่อนฟอนเฟ้นอกอิ่มภายใต้เนื้อผ้ายับยู่
และอีกมือก็กำลังเคลื่อนคล้อยจากต้นขาเข้าสู่กลางลำตัว ซึ่งถ้ามือนั้นมีประกายไฟคงเผาผลาญร่างเธอจนมอดไหม้ไปหมดแล้ว
“ฉันทำอะไรผิดคุณก็บอกฉันมาตรง
ๆ ก็ได้ อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะ”น้ำเสียงออดอ้อนหวังวิงวอนให้เขาหยุดการกระทำ
เพราะเธอรู้ว่า ปฐพีจะกระโจนใช้สิทธิ์ที่เขามีเหนือเธอทันทีถ้าเธอทำให้เขาเกิดโทสะ
แต่เธอทำเรื่องอะไรล่ะ พอฉุกคิด..เธอก็รู้สึกว่าวันนี้ปฐพีดูจะโมโหเธอทั้งวัน
“รู้ตัวแล้วสิว่าทำผิด
ผิดมากด้วย ผิดจนฉันโมโห” น้ำเสียงปฐพีเยียบเย็น ก่อนจุมพิตหนักลงซอกคออีกครั้ง
และนิ้วของเขาก็เริ่มแกะกระดุมผ่าหน้าจากชายเสื้อขึ้นมาทีละเม็ดๆ
กระทั่งเหลือกระดุมเม็ดสุดท้ายตรงเนินอก
“ผิดเรื่องอะไรก็บอกฉันมาสิคะ”
คนนอนตัวสั่นสะท้านเอ่ยเสียงอู้อี้ ทั้งพยายามทำใจดีสู้เสือ..เสือที่กำลังหิวจัด
“ผิดที่เธอไปยืนคุยกับผู้ชายแปลกหน้าโดยเฉพาะมันเป็นศัตรูของฉัน
ผิดที่เธอทำท่าอี๋อ๋อกับสาธิตทั้งที่อยู่ต่อหน้าฉัน
แล้วก็ผิดที่เธอไม่ตัดขาดจากคนรักเก่า รัญชิดาเธอเป็นเมียฉันแล้ว
แต่เธอยังไม่หยุดหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายอื่นแบบนี้ มันผิดมั้ย!” เพียงจบคำพูด
มือก็ทำหน้าที่ปลดเปลื้องกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุมพอดี
เผยนวลเนื้อขาวสร่างแม้จะยังมีชุดชั้นในอีกหนึ่งปราการ
แต่มันก็ไม่อาจขวางกั้นมืออันตรายที่ขยำขยี้เนื้อนวลได้อย่างถนัดถนี่
“ฉันไม่ผิด!” หญิงสาวแผดเสียงปฏิเสธทันควัน
เมื่อได้รับฟังความผิดแต่ละข้อของตัวเอง
เธอจะผิดได้ยังไงในเมื่อทุกคนที่ได้พบล้วนมีสาเหตุของการมาพบกัน
ใช่ว่าเธอจะไปยืนคอยพบพวกเขาเสียเมื่อไหร่ล่ะ
“ไหนเธอลองพูดมาซิ
ว่าที่ฉันเห็น เธอไม่ผิดยังไง” ปฐพีเอียงหน้าขึ้นถามเพียงนิด
ก่อนจะวางคางสากระคายไว้บริเวณแก้มนวลรอคอยคำตอบจากคนที่นอนหันหน้าหนี
อีกทั้งร่างนุ่มหอมอยู่ในอาการแข็งเกร็ง ผลจากทรวงอกถูกกอบกุมนวดเฟ้นหยอกล้อเบา ๆ
ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มความหนักหน่วง จนเจ้าของมือซุกซนรู้สึกได้ว่าร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัวเลยทีเดียว
“ก็..ก็
นายเมธีนั่นฉันเจอเขาโดยบังเอิญ แล้ว..เขาก็แนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนไร่กับคุณ
ฉันก็ต้องรับการทักทายจากเขาตามมารยาท
ส่วนคุณสาธิต..เขาเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกับคุณดี
ฉันก็ต้องให้เกียรติเขา..เป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว”
ปากคอสั่นหวั่นไหวขณะรีบคิดเค้นถ้อยคำมาอธิบาย เกิดเสียงร้องหวีดออกมา เมื่อจู่ ๆ เขาก้มลงฝังจมูกโด่งลงตรงกลางร่องอก!
“แล้วเรื่องแฟนเก่าของเธอล่ะ?”
ปากเอ่ยถามผ่านร่องเนื้อนวลที่เขาฝังใบหน้าลงไปแช่นิ่ง
เนื้อหอมตรงนี้ปฐพีปรารถนาสัมผัสตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นมันโอบรับองุ่นลูกนั้น
“ฉันไม่เคยติดต่อกับเขาเลยตั้งแต่มาอยู่กับคุณ
เห็นออนไลน์คุยอยู่นั่น ฉันคุยกับแม่ประภาและไขนภาต่างหาก คุณไม่คิดถาม
มโนไปเองแล้วก็มาโมโหใส่ฉันแบบนี้ ฉันถึงบอกว่าฉันไม่ผิด”
“ใครล่ะผิด
ฉันงั้นสิ?” ใบหน้าหล่อเหลายังคงฝังแช่สูดกลิ่นหอมของเนื้อสาว น้ำเสียงถามก็แสนยียวน
“ฉันไม่โทษใครก็ได้
แต่ตอนนี้คุณลุกก่อนได้ไหมคะ ฉัน..อึดอัด”
“ไม่”
น้ำเสียงชายหนุ่มคราวนี้ราบเรียบเพราะไร้ข้อกังขา
แต่ยังตรึงใบหน้ากับเนื้อนวลไม่คิดขยับไปไหน
ปฐพียังแปลกใจว่าอะไรดลใจให้เขาทำตนคล้ายเป็นโรคจิตที่ไม่ยอมผละจากเนินอกหญิงสาวเสียที
แต่คำตอบที่ได้ก็คือความหิวกระหายที่สิงสถิตอยู่ในธรรมชาติของผู้ชายทุกคน
เขาก็ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่สำคัญเนื้อหวานชิ้นนี้มันน่ากินเหลือเกิน
“เอ้า
ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วก็ปล่อยฉันสิคะ” เธอใช้น้ำเสียงท้วงดังขึ้น
“ฉันจะลุกได้ยังไงเธอไม่สังเกตเลยหรือ
ว่าตอนนี้ร่างกายฉัน มันต้องการเธอ”
น้ำเสียงปฐพีแหบพร่าตามสถานการณ์ร่างกายเลือดหนุ่มที่กำลังแล่นพล่านไปทั่วร่าง
รัญชิดาพยายามจะหรี่ตามองเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ยิ่งเห็นแววตาหยาดเยิ้มกับอาการกลืนน้ำลายลงคอ
เธอยิ่งต้องคิดหาวิธีเอาตัวรอด ใช่สิ เธอมีวิธีเอาตัวรอด
“คุณทำแบบนี้เท่ากับผิดสัญญาต่อคุณปรเมศร์นะคะ
คุณสัญญาว่าจะดูแลฉันให้ดีเพื่อเขา แล้วแบบนี้เรียกว่าดีหรือคะ
น้องชายของคุณต้องรับรู้และรู้สึกผิดหวัง
ถ้าพี่ชายที่เขาไว้ใจที่สุดทรยศคำสัญญาของเขาแบบนี้”
ได้ผลจริง
ๆ เพียงคำพูดของเธอจบลง มือหนาคลายจากข้อแขน ส่วนมือเคลื่อนคล้อยหยุดลงฉับพลัน
‘ทรยศคำสัญญา!’ เสียงขุ่นเคืองสบถอยู่ในใจ
ก่อนร่างใหญ่ขยับตัวลุกนั่ง พลางคิดว่าผู้หญิงคนนี้กล้ามาก
ที่ใช้ถ้อยคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับปรเมศร์มาเป็นเครื่องมือผลักไส
ปฐพีลงจากเตียงได้
สาวเท้าตรงไปที่ประตู แต่ก่อนจะเปิดออกไปเขาหันกลับมาเอ่ยเสียงเครียด
“เธอพูดเก่ง
แต่รัญชิดาฉันขอเตือนเลยนะ ถ้ายังอ่อยเหยื่อไม่เลิก
ฉันจะเป็นคนสำเร็จโทษเธอแทนนายเล็กเอง และน้องชายฉันก็คงไม่คิดค้าน
ถ้านั่นเป็นการลงโทษผู้หญิงที่ไม่รักดี”
ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเครียดจัด
รัญชิดาพ่นลมออกปากโล่งอกที่เห็นเขายอมปล่อยเธอง่าย
ๆ นับว่าดีที่เอาตัวรอดได้อีกหนึ่งวัน แต่ผู้ชายคนนี้ร้ายจริง ๆ
เอะอะก็จะปล้ำจนเธอหวั่นใจไม่รู้จะรอดมือไปได้สักกี่น้ำ
ไม่แน่วันพรุ่งนี้หรือวันต่อ ๆ
ไปอาจหาเหตุมากระทำมิดีมิร้ายกับเธอแบบนี้อีกก็เป็นได้
ช่างเถอะ
ค่อยแก้ไขปัญหาเป็นครั้งคราไปยังไงเธอก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้สิน่า
ในเมื่อเขาประกาศใส่หน้าเธอเองว่าพาเธอมาให้น้องชาย
ฉะนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขา
และเธอจะใช้จุดนี้แหละทำให้ตัวเองรอดพ้นจากกรงเล็บเสือร้าย
สี่ทุ่มท้องฟ้ามืดมิดถูกปกคลุมด้วยก้อนเมฆหนาที่รวมตัวกันรอเวลาหลั่งน้ำตาลงสู่พื้นดิน
กลายเป็นกิจวัตรแล้วสำหรับปฐพีที่ต้องมาเยือนกระท่อมริมธารทุกค่ำคืน
กุญแจถูกปลดล็อกก่อนผู้ที่ไขมันจะผลักบานประตูย่างกรายสู่ข้างใน
คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อหลอดไฟไม่ทำงาน
เขาลืมเสียสนิทว่าจะนำหลอดไฟมาเปลี่ยนหลังจากเมื่อวานเห็นมันติด ๆ ดับ ๆ ..เฮ้อ
ชายหนุ่มถอนใจกับความเหนื่อยหน่ายที่แฝงมาพร้อมความเศร้าละอาย
ร่างสูงใหญ่หยุดฝีเท้าลงหน้าตู้โชว์ที่ด้านบนมีกรอบรูปบุคคลอันเป็นที่รัก
ก่อนกล่าวถ้อยคำหวังทำลายความอัดอั้นที่มันสุมทุมจนแน่นอก “เล็ก พี่ขอโทษ
พี่ไม่ตั้งใจทรยศคำสัญญา แต่พี่..” คำกล่าวมีเพียงเท่านั้นจริง ๆ เพราะถ้าเพียงเขาพูดต่อเขาจะกลายเป็นคนโกหกในสายตาของปรเมศร์ทันที
และนอกจากเขาไม่ต้องการทรยศต่อคำสัญญาที่มีให้ปรเมศร์แล้ว
เขายังไม่อาจทรยศต่อหัวใจตนเองด้วย
ปฐพียืนอยู่อย่างเหงา
ๆ ท่ามกลางความมืด
เขาจะบอกต่อวิญญาณปรเมศร์ได้อย่างไรว่าเขาต้องการผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน
ทั้งที่พยายามหักห้ามแต่ยิ่งชิดใกล้เขาก็ยิ่งเห็นว่ารัญชิดามีอะไรหลายอย่างที่ถูกใจ
ไม่ว่าจะรูปกายงดงามเย้ายวน และจิตใจเข้มแข็งอ่อนโยนแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ยังมีความรักต่อไร่องุ่นของเขาอีกด้วย
ชายหนุ่มคิดว่าความถูกใจคงเริ่มก่อตัวนับแต่ติดตามประวัติและได้พบตัวจริงของรัญชิดาในวันนั้นแล้ว..หญิงสาวสวยวัยยี่สิบสามสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนหวานนั่งด้วยท่าทางนิ่งสงบ
หลังจากรับฟังจุดประสงค์ที่เขาเข้ามาพูดคุยพร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง
หญิงสาวไม่มีอาการตีโพยตีพายหรือแม้แต่คร่ำครวญหวนไห้ในขณะที่เขาเสนอเงื่อนไขจดทะเบียนสมรสเพื่อแลกกับเงินห้าล้าน
อาจจะดูเหมือนรัญชิดาตกลงรับเงื่อนไขอย่างง่ายดาย
แต่ปฐพีรู้ดีว่ารัญชิดาทำไปภายใต้แรงกดดัน
ส่วนหนึ่งเพราะหญิงสาวรู้ถึงความรับผิดชอบที่ตนเป็นต้นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อีกส่วนคงเพราะหญิงสาวรักบ้านซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาถึงตนหลังจากบิดามารดาได้เสียชีวิต
และรัญชิดารักครอบครัวใหม่ที่มีแม่เลี้ยงใจดีอีกทั้งน้องสาวร่วมสายโลหิตที่น่ารัก
ความรักที่รัญชิดามีต่อทุกคนในครอบครัวทำให้หญิงสาวต้องรักษาที่พำนักหลังนี้ไว้เพื่อแม่คนที่สองและน้องสาวจะไม่ลำบาก
ก่อนหน้านั้นเขาไร้หนทางที่จะทำตามคำขอร้องของปรเมศร์เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเพื่อนำตัว
รัญชิดาเดินทางมาอยู่ไร่ปานเทวาด้วยกัน แต่แล้วการจ้างนักสืบคอยติดตามสืบประวัติของหญิงสาวชนิดละเอียด ก็ทำให้เขารู้ว่าบ้านหลังใหญ่ที่สามแม่ลูกอาศัยอยู่นั้นติดจำนองและได้ขาดส่งดอกเบี้ยจนกระทั่งมีจดหมายประทับตราด่วนพิเศษจากธนาคาร เขานำจุดนี้มาเป็นข้อต่อรอง และสิ่งสำคัญที่เขานำมากดดัน
รัญชิดาอย่างหนักคือจดหมาย..ซึ่งจดหมายมรณะฉบับนั้นก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้รัญชิดาต้องเดินทางมาชดใช้หนี้หัวใจที่ไร่แห่งนี้
รัญชิดาเดินทางมาอยู่ไร่ปานเทวาด้วยกัน แต่แล้วการจ้างนักสืบคอยติดตามสืบประวัติของหญิงสาวชนิดละเอียด ก็ทำให้เขารู้ว่าบ้านหลังใหญ่ที่สามแม่ลูกอาศัยอยู่นั้นติดจำนองและได้ขาดส่งดอกเบี้ยจนกระทั่งมีจดหมายประทับตราด่วนพิเศษจากธนาคาร เขานำจุดนี้มาเป็นข้อต่อรอง และสิ่งสำคัญที่เขานำมากดดัน
รัญชิดาอย่างหนักคือจดหมาย..ซึ่งจดหมายมรณะฉบับนั้นก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้รัญชิดาต้องเดินทางมาชดใช้หนี้หัวใจที่ไร่แห่งนี้
ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งเอนกายพิงตู้โชว์ซึ่งภายในกักเก็บอดีตผู้เป็นน้องชายแทบทุกชิ้น
ฝ่ามือหนาหยาบกร้านจากการทำงานหนักยกขึ้นลูบใบหน้าก่อนจะทิ้งลงข้างลำตัว
ขาทั้งสองเหยียดตรงและหลับตาหวังขับอารมณ์เครียดที่รุมเร้าจนใจอ่อนล้าออกไปบ้าง
ได้พักสักนิดร่างกายและจิตใจที่นับวันจะเพิ่มพูนความผูกพันที่มีต่อภรรยาเพียงในนามคงผ่อนคลายลง
ช่วงเวลานาทีผ่านไปเท่าไรแล้วไม่รู้
ปฐพีรู้เพียงว่าผิวกายสัมผัสถึงความเย็น
เป็นความเย็นที่เกิดจากน้ำเสียงคุ้นหูคุ้นใจดังขึ้นอยู่ใกล้ ๆ
ซึ่งนำพาหัวใจสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอย่างประหลาด
‘พี่ใหญ่ คุณรัญเป็นคนดี พี่ต้องรักเธอนะครับ’
“เล็ก
เล็ก เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป..” ปฐพีสะดุ้งตื่น ชายหนุ่มสลัดศีรษะขับไล่อาการมึนงง
เมื่อกี๊เขาเคลิ้มหลับแล้วฝันแปลก ๆ เหมือนปรเมศร์มานั่งคุยอยู่ใกล้ ๆ
ชายหนุ่มยกมือลูบใบหน้าเพื่อขับไล่อาการสะลึมสะลืออีกครั้ง
ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อตอนลืมตาขึ้นมาเขาสัมผัสหัวใจเบาหวิวของตน
เหมือนกับว่าหัวใจที่เคยถูกพันธนาการได้รับการปลดปล่อย
คิ้วเข้มดำเลิกขึ้นพิศวงว่าการได้หลับสักงีบมันส่งผลให้หัวใจโปร่งโล่งได้มากเช่นนี้เชียวหรือ
ร่างสูงลุกขึ้นหยัดยืนตั้งใจบอกลาผู้เป็นเจ้าของกระท่อมน้อยหลังนี้
แต่ต้องหยุดนิ่งเพราะเสียง
แกร๊บ..เหมือนเสียงใบไม้ถูกเหยียบด้วยฝีเท้าของผู้ที่กำลังมุ่งบุกรุกสถานที่หวงแหนของเขา
บนใบหน้าหล่อเหลาปรากฏความไม่พอใจทันที
ส่วนผู้บุกรุกสาวกำลังเดินกะเผลกเหยียบย่ำมาตามเส้นทางที่นำไปสู่กระท่อมปริศนา
เธอทิ้งช่วงเวลาพอสมควรหลังจากเห็นปฐพีเดินพ้นชายคาก่อนจะตามเขามาแม้ว่าท้องฟ้าดำทะมึนตั้งเค้าจะปล่อยฝนตกกระหน่ำตั้งแต่เย็นแล้วก็ตาม
ซึ่งนั่นก็เป็นผลดีที่เธอจะใช้เป็นข้ออ้างในการนำร่มที่ถือติดมือมาสองคันให้กับเขา
เพื่อที่ตัวเธอจะได้ไม่ถูกต่อว่าในความสอดรู้สอดเห็นกับเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก
รัญชดายังรู้สึกวาบหวามใจทุกครั้งที่นึกถึงบทลงโทษของเขาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
แต่นั่นไม่ทำให้เธอล้มเลิกค้นหาคำตอบกับบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลาง’แปลงดอกไม้’หลังนี้เลย ร่างเล็กหยุดยืนอยู่สถานที่ที่ทุกคนต่างขานนามว่ากระท่อมริมธาร
สถาปัตยกรรมริมธารก่อสร้างด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มที่ลงขัดเงาวาววับทั้งหลังโดยยกเสาสูงจากพื้นหนึ่งเมตรมีบันไดสามขั้น
บนราวจับล้วนประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสันสดใสแขวนเรียงสุดชานระเบียง
กรอบประตูไม้แกะสลักด้วยลวดลายเถาไม้เลื้อยงดงาม
มือเรียวเอื้อมจับกุญแจที่ถูกปลดล็อกแต่ยังคล้องไว้ มือวางร่มที่ถือลงพร้อมส่งสายตามองไปรอบบริเวณที่มีแต่ความมืด เธอแง้มประตูเบา
ๆเพื่อพาร่างเข้ามาหยุดยืนด้านใน ถึงกระนั้นก็นึกเอะใจ
ว่าปฐพีกลับไปบ้านหลังใหญ่หรือยังหนอ
แล้วเหตุใดเขาจึงไม่ล็อกประตูและเหตุใดจึงไม่เดินสวนทางกับเธอ
หญิงสาวกดสวิตซ์เปิดไฟแต่ไฟนิ่งไม่ให้ความสว่าง
เธอคิดว่าไฟหลอดนี้น่าจะเสียแต่คิดในแง่ดีก็คือความมืดมันไม่ก่อความสงสัยให้กับชายหนุ่มที่กลับไปแล้ว
เพราะถ้าไฟสว่างไม่แน่เขาอาจจะย้อนกลับมา
สายตาที่ปรับแสงสลัวภายในห้องได้แล้ว
เริ่มมองกวาดเก็บทุกรายละเอียด บนผนังทั้งสี่ด้านไม่เว้นแม้กรอบหน้าต่างที่มีม่านสีขาวปิดอยู่ล้วนมีแต่ภาพของชายหนุ่มเจ้าของสถานที่
รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนใน
คณะสถาปัตยกรรม ซึ่งทุกชิ้นถูกจัดเก็บไว้ในตู้โชว์กระจกใส
คณะสถาปัตยกรรม ซึ่งทุกชิ้นถูกจัดเก็บไว้ในตู้โชว์กระจกใส
เธอขยับฝีเท้าก้าวมาหยุดอยู่ด้านหน้ากรอบรูปที่วางตั้งอยู่บนหลังตู้นั้น
หนุ่มวัยรุ่นหน้าตายิ้มแย้มแม้ว่าสีหน้าติดจะซีดไปสักหน่อยแต่ภายในแววตาของเขาฉายถึงความสุขชัดเจน
และเมื่อสายตาเลื่อนมาด้านข้างก็ต้องเบิกกว้างกับรูปภาพหญิงสาวที่มีรอยยิ้มสดใสเช่นกัน
ภาพสองภาพตั้งคู่ราวเป็นคู่รักที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันและกันตลอดกาล
รัญชิดาไม่รู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกเช่นไรกับภาพที่เห็น
แต่หัวใจเธอคล้ายหลั่งน้ำตาให้กับคนที่เขามองเห็นคุณค่าในตัวเธออย่างล้นเหลือ ‘ถึงฉันจะไม่เคยรู้ว่าคุณเป็นใคร
แต่ฉันขอบคุณสำหรับความรักที่คุณมีให้ฉันนะคะคุณปรเมศร์’
“กล้ามากนะ
ตามมาถึงที่แบบนี้” เสียงห้วนที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่ถูกโอบมาจากด้านหลัง
หญิงสาวสะดุ้งโหยงไม่ทันจะคิดว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
“ปล่อยนะคะคุณปฐพี!”
“ฉันปล่อยเธอแล้วนะรัญชิดา
แต่เธอนั่นแหละเป็นฝ่ายมาหาฉันเอง” เสียงห้วนเจืออารมณ์ขัน
ที่ไม่ต้องออกไล่ตะครุบเหยื่อให้เหนื่อยแรง
ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาหญิงสาวยังภูมิใจที่สามารถเอาตัวรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาต
แต่ตอนนี้สิเธอกลับเดินมาล่อเหยื่อให้เสือหนุ่มขย้ำเอาได้
ทว่าเมื่อรัญชิดานึกถึงวิธีเอาตัวรอดในช่วงเวลาคับขัน
ริมฝีปากอิ่มก็ยิ้มกระหยิ่มขึ้นมาทันที
“คุณกล้าผิดคำสัญญาต่อหน้าคุณปรเมศร์หรือคะ
มันคงไม่ดีหรอกมั่ง”
พูดจบมือเล็กก็เริ่มแกะมือเหนียวหนึบที่เคลื่อนมารัดรึงใต้ทรวงอก
แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจ
มืออันตรายนั่นยังจับใบหน้าเรียวหันไปรับจุมพิตที่กดลงมารวดเร็วเข้าไปอีก
ปฐพีนึกขำกับเพทุบายที่หญิงสาวนำมาต่อสู้กับเขา
หึ..ครั้งนี้มันใช้ไม่ได้ผลหรอกรัญชิดา
ใบหน้าหล่อเหลากดซุกไซ้ซอกคอไล้ลงมาหัวไหล่กลมกลึงขบฟันลงเนื้อเบา ๆ
ด้วยความหมั่นเขี้ยวที่อีกฝ่ายช่างมีลูกล่อ
ลูกชนกับเขาเสียจริง
ลูกชนกับเขาเสียจริง
ร่างเล็กดิ้นรนเพื่อให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ พร้อมกับเปล่งเสียงสั่นย้ำเตือนถึงถ้อยคำนั้นอีก
“คุณรังแกผู้หญิงของน้องชาย
เขาจะต้องเสียใจ อุ๊บ!”
จบถ้อยคำปากสั่นระริกก็โดนปิดอีกครั้งคราวนี้แทบไม่มีช่องว่างให้เธอได้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว
ประจวบเหมาะกับการถูกอุ้มขึ้นไปวางบนผ้าคลุมเตียงสีขาวพร้อมกับร่างใหญ่กดทับตามมา
เธอคิดว่าจะต้องพยายามดิ้นให้หลุดแม้จะเหนื่อยหอบแทบขาดใจ แต่มันไม่เป็นประโยชน์เลยสักนิดเพียงแค่เขาสัมผัสจับต้องไปทั่งเรือนร่างใจที่คิดค้านก็เริ่มหวั่นไหวอ่อนยวบ
นั่นเพราะ
ไม่มีสิ่งใดยับยั้งฤทธิ์รักของชายหนุ่มได้อีก
ยิ่งเธอตะโกนใส่หน้าเขาเรื่องถ้อยคำสัญญานั้นเพียงไร สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูเบิกบาน
ราวกับว่าเขาได้หลุดพ้นจากคำสัญญาเหล่านั้นแล้ว
ร่างใหญ่ที่ทาบทับบนเนื้อเนียนนุ่มขยับออกนิดโดยใช้ท่อนแขนแกร่งค้ำยัน
สายตาคมมองจับไปที่นวลแก้มแดงระเรื่อกับริมฝีปากบวมเจ่อที่ถูกบดจูบไม่ยั้ง
“รัญชิดา
เธอเป็นผู้หญิงของฉันแล้ว”
นิ้วชี้ของเขายกมาปิดกั้นริมฝีปากอิ่มที่กำลังเอื้อนเอ่ย “หยุดฟัง
แล้วฟังอย่างตั้งใจ เพื่อที่เธอจะได้เลิกใช้คำสัญญามาหยุดความต้องการของฉันเสียที”
ดวงตาสวยกะพริบถี่
ร่างกายที่นิ่งงันหายใจเข้าออกรัวเร็วเพื่อขับไล่อาการตื่นเต้นที่วิ่งพล่านไปทุกอณู
รอคอยถ้อยคำที่เตรียมพรั่งพรูตัดสินชะตา
“นายเล็กคือเหตุผลที่ฉันพาเธอมาที่นี่
แต่ในความเป็นจริงเธอคือเมียของฉัน และนายเล็กเห็นด้วยที่ฉันจะเป็นคนดูแลเธอ”
ปฐพีจำได้ถึงสัมผัสในห้วงฝันที่ปรเมศร์จับมาบนบ่าของเขา
เพื่อให้เขามั่นใจและทำตามความปรารถนาของหัวใจตนเอง
นิ้วมือชายหนุ่มเคลื่อนไปตามรูปปากอิ่มจังหวะที่จ้องลึกเข้าไปในแววตาสวยเป็นประกาย
ถ้อยคำสุดท้ายก็พรั่งพรูออกมา “ฉันต้องการเธอ นายหญิงรัญ”
หญิงสาวหยุดหัวใจรับฟังเสียงแหบพร่าเอ่ยถ้อยคำที่ทำหัวใจรัญจวน
เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินน้ำคำดุจเว้าวอนแบบนี้
ในเมื่อทุกครั้งที่ผ่านมาเขามักใช้กำลังเรียกร้องโดยไม่คำนึงถึงหัวใจบาง ๆ
ของเธอเลย
“แต่ความต้องการของคุณมันเกิดจากหนี้แค้น”
น้ำเสียงหวานท้วงขึ้นแผ่วเบา จะให้เชื่อคำพูดของเขาง่าย ๆ ได้อย่างไร
“มันอาจจะเริ่มจากตรงนั้น
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เรื่องระหว่างเราต่อจากนี้มันจะเกิดจากหัวใจของฉันเอง”
เพื่อเธอ ผู้หญิงที่ปฐพีเพียรปฏิเสธเรื่อยมา ด้วยการสร้างกำแพงสัญญาเพื่อกั้นขวางทุกความรู้สึกในหัวใจชาย
“คุณปฐพี..”
รัญชิดาเบิกบาน
รับรู้ว่าหัวใจส่วนที่เว้าแหว่งกำลังจะได้ชิ้นส่วนที่ขาดหายมาเติมเต็ม
“ฉันรู้ใจตัวเองแล้ว
ว่าต้องการเธอ และต่อแต่นี้ไปเธอก็ต้องเรียนรู้ชีวิตคู่ของเราด้วย เข้าใจไหม”
ชายหนุ่มก้มลงมากระซิบชิดริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะแนบจุมพิตลงมาเบา ๆ
นุ่มนวลอ่อนหวานอย่างที่เขาไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
การไม่ปฏิเสธจุมพิตของเขาคือคำตอบจากหญิงสาว
ในเมื่อความใกล้ชิดสนิทเสน่หากันบ่อยครั้งสั่นคลอนหัวใจเธอมาพักหนึ่งแล้ว
เพียงแต่เธอและเขาต่างวางหัวใจบนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบให้ได้พินิจถึงความรู้สึกของกันและกันอย่างถ้วนถี่
ต่างจากวันนี้เวลานี้ที่สองหัวใจพร้อมจะมาบรรจบและร่วมเดินบนเส้นทางเดียวกันแล้ว
แขนเรียวขยับโอบกอดต้นคอเขาไว้อย่างยินยอมพร้อมใจ
ด้วยเวลานี้หัวใจเธอพ่ายแพ้ต่อแรงปรารถนาที่มีต่อเขา ปฐพีครางลึกในลำคอเพราะยิ่งเขาจูบไล้เล่นลิ้นยิ่งโหมไฟเสน่หา
หนักเข้าริมฝีปากหนาละจาก
ริมฝีปากอิ่มลงมายังทรวงอกงามล้นมือ พร้อมดันยอดประทุมโผล่พ้นเนื้อผ้า ใช้ริมฝีปากกดคลึงอย่าง
ทะนุถนอมแล้วเข้าครอบครองยอดทับทิมด้วยการดูดดึงอย่างหรรษา
ริมฝีปากอิ่มลงมายังทรวงอกงามล้นมือ พร้อมดันยอดประทุมโผล่พ้นเนื้อผ้า ใช้ริมฝีปากกดคลึงอย่าง
ทะนุถนอมแล้วเข้าครอบครองยอดทับทิมด้วยการดูดดึงอย่างหรรษา
ยิ่งปฐพีเคล้าคลึงหนักหน่วงคนใต้ร่างยิ่งสะท้านหวั่นไหว
จนต้องแทรกปลายนิ้วลงในเส้นผมยุ่งเหยิงของเขา ใบหน้าที่ซุกไซ้อยู่บริเวณเนินเนื้อเงยขึ้นส่งเสียงคราง
พลางสบนัยน์ตาไม่ประสีประสาระคนเว้าวอนสับสนของหญิงสาว กระทั่งเขาทนความหอมหวานจากกายสาวไม่ไหว
ร่างใหญ่ผละจากอกสวยและลุกขึ้น
เปลื้องผ้าของตนอย่างรวดเร็ว เผยเรือนร่างแข็งแรงกำยำของบุรุษเพศ
ดวงตาหญิงสาวถึงกลับเบิกกว้างใบหน้าแดงซ่านต้องรีบหันหนี
ปฐพียิ้มร่าชอบใจในอากัปกิริยาขวยเขินนั้น เขาโน้มกายเปลือยมาหาร่างนอนนิ่ง
พร้อมลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกายหญิงสาวเช่นกัน
รัญชิดาสะดุ้งโหยง
เมื่อสองร่างต่างไร้อาภรณ์ปิดกั้นแล้วเขาทาบทับลำตัวลงมาหา
ทำให้เธอสัมผัสความร้อนฉ่าเสียดสีบริเวณโคนขาอ่อนเรียว
เรียกเลือดสูบฉีดจนผิวกายสาวกลายเป็นสีชมพู
ปฐพีหยัดกายขึ้นจากร่างเล็กเพียงเล็กน้อย
ก่อนจะวกกลับมากดจูบหน้าท้องน้อยอย่างละเลียด สองมือไล้ลงช่วยแยกเรียวขา ก่อนแทรกใบหน้าลงยังใจกลางหญิงสาวอย่างนุ่มนวล
ภมรหนุ่มส่งปลายลิ้นตวัดชิมน้ำหวานพร่างพรมอยู่ภายในเกสรดอกไม้
ซึ่งสร้างความหลงใหลในรสหวานที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมนุษย์ จนไม่อาจหยุดยั้งใจชิมรสชาติหวานล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้
ร่างกายสาวบิดพลิ้วอย่างซาบซ่านในความหฤหรรษ์ที่ไม่เคยได้พบพาน
หากแต่ภมรหนุ่มกลับหลงใหลอยู่ในรสชาติอันหอมหวานจากเกสรดอกไม้
มิได้สนใจร่างเล็กที่ตอนนี้บิดเร่าด้วยแรงปรารถนาสักนิดเลย
ต่อเมื่อลิ้มรสกายสาวจนพอใจใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นพิศมองเธอด้วยแววตาเว้าวอน
จนเธอสัมผัสได้ถึงความปรารถนาอันเร่าร้อนล้ำลึกในดวงตาของเขา จากนั้นเขาค่อย ๆ
เลื่อนกายขึ้นมาหาใบหน้าหวานและกระซิบเอ่ยขอที่ข้างใบหู
“ขอฉันนะ
รัญชิดา” ชายหนุ่มจ้องดวงตาสวยแน่นิ่งเพื่อขอคำยืนยัน
ว่าหญิงสาวพร้อมมอบทั้งกายและใจให้กับเขาด้วยความรักทั้งหมดที่มี
“ค่ะ”
ใบหน้าเพริศพริ้งพยักหน้าตอบอย่างเอียงอาย
ในเมื่อหัวใจของเขาพร้อมที่จะรับเธอเป็นส่วนหนึ่ง
เธอจึงพร้อมเช่นกันกับความรักที่จะมาเติมเต็มหัวใจให้เต็มดวง
ท่อนแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่มเมื่อใบหน้าของเขาโน้มต่ำลงมา
ปฐพีส่งความหวานล้ำผ่านปลายลิ้น
ริมฝีปากอิ่มตอบรับจุมพิตรัญจวนด้วยความเต็มใจ จนสิ้นสุดเวลาที่รอคอย
เขาใช้หัวเข่าดันเปิดทางช่วงล่างอีกนิด ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้า
หลอมรวมสองร่างให้เป็นหนึ่งเดียว
“อื้อ..คุณ
ปฐพี”
“ชู้ส์
อีกนิดเดียวรัญชิดา”
อ้อมแขนเล็กเรียวเอื้อมมาขยุ้มจิกเล็บลงแผ่นหลังชุ่มเหงื่อ
ในนาทีที่เขามอบความเจ็บปวดระคนหวามไหวและกลายเป็นนาทีแห่งความสุขสันต์
ปฐพีสื่อสารความในใจผ่านจังหวะรักอ่อนหวานไปสู่ความร้อนแรง
จนกระทั่งสิ้นสุดจังหวะรักด้วยความสุขสม
สรรพสิ่งใด
ๆ ล้วนหลับใหลไปพร้อมความมืดมิด
จะมีก็แต่เสียงหอบหายใจกระเส่าของคู่รักคู่หนึ่งที่เริ่มบทเพลงแห่งรัก สอดประสานกันอีกครั้งท่ามกลางสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา
และราตรีอันยาวนานทำให้ทั้งสองมอบความรักให้กันและกันอย่างมีความสุขตลอดคืน
ภายใต้อากาศอันเหน็บหนาวจากสายฝนพรำ
สองหนุ่มสาวที่ตกอยู่ในห้วงหัวใจอบอุ่นไม่รู้เลยว่าจากวันพรุ่งนี้ไปพวกเขาจะได้พบกับเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเยือนเป็นบททดสอบความรักของตน
โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน
ไร่เสน่หาจองจำหัวใจ
ทำมือขาย: 200 + 40 = 240 บาท
ยอดโอนยืม ราคาปก 319 + 40 =359
(พื้นที่ห่างไกลลงทะเบียน)
ซึ่งร้านรับคืนหนังสือแล้วโอนคืนลูกค้า 319-31=288 บาท
เงื่อนไขราคาเช่า : เช่าเหมา 7 วัน ราคา 10%ของราคาปก ตัวอย่างการยืม
เช่น นิยายราคาปก 200x10%=20 บาทซึ่ง ยอดยืม 20 บาทนี้จะหักจากค่ามัดจำที่ผู้ยืมต้องจ่ายตามราคาปกก่อน เมื่อส่งหนังสือคืนแล้ว
จะโอนคืนส่วนที่หักค่ายืมแล้วค่ะ
หมายเหตุ : ยืมได้ครั้งละไม่เกิน 2 เล่ม ส่งคืนตามวันที่ระบุ ถ้าเลยกำหนดส่งสองวันขอหักยอดที่จะโอนคืนวันละ 2 บาทค่ะ และขอย้ำว่าต้องวางมัดจำตามราคาปกทุกเล่มค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)